Please use this identifier to cite or link to this item: https://dspace.rmutk.ac.th/jspui/handle/123456789/4847
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.authorดวงสุรีย์ แสนสีระ.-
dc.date.accessioned2025-10-14T06:56:24Z-
dc.date.available2025-10-14T06:56:24Z-
dc.date.issued2560-
dc.identifier.urihttps://dspace.rmutk.ac.th/jspui/handle/123456789/4847-
dc.description.abstractงานวิจัยนี้ศึกษาการพัฒนาตำรับเวชสำอางบำรุงผิวผสมน้ำมันหอมระเหยจากต้นย่านาง โดย สกัดน้ำมันหอมระเหยด้วยวิธีการกลั่นด้วยน้ำร้อน (hydro-distillation) ส่วนเหนือพื้นดินของต้น ย่านาง ศึกษาและพัฒนา ตำรับโลชั่นน้ำมันหอมระเหยต้นย่านาง ศึกษาการประเมินคุณภาพทาง เคมีและทางกายภาพของโลชั่น ศึกษาความเข้ากันได้ของส่วนประกอบในตำรับด้วยการเก็บในที่ร้อน สลับเย็น ศึกษาความพึงพอใจของอาสาสมัครต่อการทดลองทาโลชั่น ศึกษาความระคายเคืองต่อ ผิวหนังของโลชั่นที่ทดลองโดยอาสาสมัคร ด้วยวิธีการทาสารทดสอบที่ผิวหนัง (open patch test) ที่ บริเวณท้องแขน ผลการศึกษาการสกัดน้ำมันหอมระเหยต้นย่านาง พบว่า ส่วนเหนือพื้นดินต้นย่านาง มีปริมาณของน้ำมันหอมระเหยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก (% Yield) เท่ากับ 25.5% (w/w) ผล การศึกษาและพัฒนาตำรับโลชั่นน้ำมันหอมระเหยต้นย่านาง พบว่า ลักษณะเนื้อของโลชั่นเนียน ละเอียด สีขาว กลิ่นหอม ไม่แยกชั้น โลชันไหลได้ช้า ผลการศึกษาการประเมินคุณภาพทางเคมีและ ทางกายภาพของโลชั่น โดยผลการศึกษาลักษณะทางกายภาพของโลชั่นดังนี้คือ ลักษณะเนื้อของโลชั่น สีกลิ่น การไหล ความหนืด ความรู้สึกเหนอะหนะเวลาทาโลชั่น การแยกชั้นของเนื้อโลชั่น และผล การศึกษาลักษณะทางเคมีของโลชั่นคือ ค่า pH พบว่า ลักษณะทางกายภาพคือ ลักษณะเนื้อของโลชั่น ทั้งโลชั่นเบสและโลชั่นที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหยย่านาง มีลักษณะเนื้อของโลชั่นละเอียดมัน วาว สีขาว กลิ่นของโลชั่นที่มีส่วนผสมน้ำมันหอมระเหยย่านางมีกลิ่นหอมอ่อนกว่าโลชั่นเบส ค่าความ หนืดของโลชั่นเบสเท่ากับ 26600 cP ส่วนค่าความหนืดของโลชั่นที่มีส่วนผสมน้ำมันหอมระเหยย่า นางเท่ากับ 25433 cP ความรู้สึกเหนอะหนะเวลาทาโลชั่นของโลชั่นเบสสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้เร็วกว่า โลชั่นที่มีส่วนผสมน้ำมันหอมระเหยย่านาง และรู้สึกไม่เหนอะหนะทั้งโลชั่นเบสและโลชั่นที่มีส่วนผสม ของน้ำมันหอมระเหยย่านาง การแยกชั้นของเนื้อโลชั่นทั้งโลชั่นเบสและโลชั่นที่มีส่วนผสมของน้ำมัน หอมระเหยย่านางไม่แยกชั้น ส่วนลักษณะทางเคมีคือ ความเป็นกรด-ด่างของโลชั่น พบว่า โลชั่นเบสมี ค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) เท่ากับ 6.62 ส่วนโลชั่นที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหยย่านางมีค่า ความเป็นกรด-ด่าง (pH) เท่ากับ 6.63 ผลการศึกษาความเข้ากันได้ของส่วนประกอบของโลชั่นใน ตำรับด้วยการเก็บในที่ร้อนสลับเย็น พบว่า ลักษณะเนื้อของโลชั่น กลิ่น สี การไหลของโลชั่นไม่ เปลี่ยนแปลง ส่วนค่าความหนืดและค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) ลดลงเล็กน้อย ผลการศึกษาความพึง พอใจของอาสาสมัครโลชั่นน้ำมันหอมระเหยต้นย่านาง ที่ความพึงพอใจโดยรวม พบว่า โลชั่นที่มี ส่วนผสมน้ำมันหอมระเหยย่านางมีความพึงพอใจที่ระดับ 5 มากกว่าโลชั่นเบส คิดเป็นร้อยละ 48 และ 28 ตามลำดับ ผลการศึกษาความระคายเคืองต่อผิวหนังของโลชั่นที่ทดลองโดยอาสาสมัคร พบว่า อาสาสมัคร 10 คน ไม่มีอาการผิดปกติของผิวหนังหลังทาเป็นเวลาต่อเนื่อง 5 วันen_US
dc.description.sponsorshiplibrary.oarit@mail.rmutk.ac.then_US
dc.language.isootheren_US
dc.publisherมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ. สำนักวิจัยและพัฒนาen_US
dc.subjectน้ำมันหอมระเหยen_US
dc.subjectเครื่องสำอางสมุนไพรen_US
dc.subjectต้นย่านางen_US
dc.subjectสมุนไพรen_US
dc.subjectครีมถนอมผิว-
dc.titleการพัฒนาตำรับเวชสำอางบำรุงผิวผสมน้ำมันหอมระเหยจากต้นย่านาง : รายงานการวิจัยen_US
dc.title.alternativeDevelopment of the Cosmeceutical Formulation for Aging Mix with Essential Oill from Tiliacora triandra Diels.en_US
dc.typeOtheren_US
Appears in Collections:งานวิจัย

Files in This Item:
There are no files associated with this item.


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.