Please use this identifier to cite or link to this item:
https://dspace.rmutk.ac.th/jspui/handle/123456789/4589
Title: | คอลัมน์ VARIETY: ประกวด'ผ้าไทยใส่สบาย'สลัดมายาคติเก่า-เข้าถึงคนทุกวัย |
Authors: | ไทยโพสต์ |
Keywords: | มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย โครงการประกวดออกแบบเครื่องแต่งกายร่วมสมัย (Contemporary Fashion Competition 2022) |
Issue Date: | 19-Apr-2565 |
Publisher: | ไทยโพสต์ |
Abstract: | ทั้งผ้าจก ผ้าแพรวา ผ้ามัดหมี่ ผ้าไหมเกาะหรือล้วง ผ้ายก ผ้าซิ่นตีนจก ผ้าบาติก ชนิดของผ้าที่ใช้ก็มีทั้งผ้าไหม ผ้าฝ้าย และอีกมากมาย ถูกรวมเรียกว่า "ผ้าไทย" ซึ่งเป็นศิลปะและภูมิปัญญาในแต่ละท้องถิ่นที่สอดแทรกเทคนิคการทอและลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละภาคไว้ตั้งแต่อดีต และได้รับการสืบทอดต่อกันมาถึงปัจจุบัน แต่สิ่งที่ผ้าไทยต่อสู้กับกระแสโลกสมัยใหม่มาอย่างยาวนานนั้นก็คือ การทำให้ผ้าไทยได้รับการยอมรับในวงกว้าง หรือมีผู้นิยมสวมใส่ผ้าไทยในโอกาสต่างๆ มากมายในกลุ่มผู้คนหลากหลายกลุ่ม ไม่ได้จำกัดเฉพาะผู้สูงอายุ หรือกลุ่มข้าราชการเท่านั้น การปรับตัวเพื่อให้ผ้าไทยยืนหนึ่งในอาภรณ์ที่ควรค่าแก่การสวมใส่ และลบภาพมายาคติว่าเป็นผ้าของผู้สูงอายุ คนเก่าคนแก่ออกไป ทำให้ปัจจุบันการออกแบบผ้าไทยได้ถูกพัฒนาขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง รวมถึงการสร้างสรรค์ไอเดียเพื่อประยุกต์ให้ผ้าไทยสามารถใส่ได้ในทุกช่วงวัย ไม่ว่าจะใส่ทำงาน หรือใส่เที่ยว เกิดการผสมผสานกันระหว่างวิถีดั้งเดิมและวิถีแบบร่วมสมัย นับเป็นการขับเคลื่อนวัฒนธรรมไทยและสร้างรายได้ให้ชุมชน เปิดทางให้ผ้าไทยโบยบินไปสู่ระดับสากลได้อีกด้วย ล่าสุด กระทรวงวัฒนธรรม โดยสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ได้เปิดตัวโครงการประกวดออกแบบเครื่องแต่งกายร่วมสมัย (Contemporary Fashion Competition 2022) ภายใต้แนวคิด "ไทยใส่สบาย" พร้อมกับลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ 6 สถาบันการศึกษา ได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร เพื่อพัฒนาความร่วมมือด้านศิลปะร่วมสมัย สาขาการออกแบบเครื่องแต่งกาย สร้างการรับรู้และตระหนักถึงคุณค่าของผ้าไทยที่ใส่ได้ในทุกโอกาส โกวิท ผกามาศ ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กล่าวว่า จุดประสงค์ในการจัดการประกวดการออกเครื่องแต่งกายร่วมสมัย ในแนวคิด ไทยใส่สบาย เพื่อเป็นการสนับสนุนทุนทางวัฒนธรรมของแต่ละชุมชนในประเทศไทยที่มีเอกลักษณ์ผ้าไทยที่งดงาม อีกทั้งผ้าไทยและการออกแบบแฟชั่นถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ที่สำคัญ เพราะบ่งบอกได้ถึงความเป็นไทย และยังเป็นการถ่ายทอดสืบสานภูมิปัญญาการทอผ้าให้แก่คนรุ่นหลัง ดังนั้นผู้เข้าประกวดทุกคนจะต้องนำผ้าไทยมาเป็นวัตถุดิบในการออกแบบ ใส่ได้ทุกกลุ่มวัย "ในโอกาสนี้ยังเป็นการให้ผู้ประกอบการเกี่ยวผ้าไทยได้นำเสนอถึงความพิเศษ เส้นใย กรรมวิธีในการผลิต สีสัน และลวดลาย ในอนาคตมีแนวคิดในการขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังกลุ่มคนทำงานวัย 30-40 ปี หรือกลุ่มผู้บริหาร เพื่อให้ผ้าไทยเข้าถึงทุกกลุ่มวัยมากขึ้น สำหรับในปีนี้นอกจากกลุ่มนิสิตนักศึกษาแล้ว กลุ่มนักออกแบบเครื่องแต่งกาย และประชาทั่วไปก็สามารถเข้าร่วมการประกวดได้ด้วย เพื่อให้เห็นความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่จำกัด เพื่อคัดเลือกให้เหลือเพียง 12 คนที่จะเข้าไปสู่ในรอบตัดสิน" โกวิทกล่าว บัญชา ชูดวง ดีไซเนอร์และที่ปรึกษาโครงการประกวดออกแบบเครื่องแต่งกายร่วมสมัยด้านคณะกรรมการ กล่าวว่า ในปีนี้อยากจะเห็นผู้เข้าประกวดทุกคนในการนำเสนอแนวคิดให้มีความแตกต่างจากปีที่ผ่านมา รวมไปถึงการเลือกใช้ผ้า การดีไซน์ และการเข้าถึงชุมชนใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยมีการหยิบนำผ้าของชุมชนนั้นมาออกแบบ เพราะปีนี้ไม่จำกัดพื้นที่การใช้ผ้า สามารถเลือกผ้าไทยได้จากทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย ศิริชัย ทหรานนท์ เจ้าของแบรนด์เธียเตอร์ (THEATRE) กล่าวว่า เนื่องจากคอนเซ็ปต์การประกวดในปีนี้คือ ไทยใส่สบาย ดังนั้นการออกแบบผ้าไทยก็จะเน้นสวมใส่ได้จริง มีความคล่องตัว และสบาย เหมาะสำหรับการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน สิ่งสำคัญ เวทีนี้เป็นอีกหนึ่งการแสดงศักยภาพของดีไซเนอร์รุ่นใหม่ที่จะเติบโตในวงการดีไซเนอร์ ธีระ ฉันทสวัสดิ์ เจ้าของแบรนด์ T-RA กล่าวเสริมว่า การออกแบบผ้าไทยในบางครั้งอาจจะดูมีขั้นตอน หรือมีการดีไซเนอร์ซับซ้อนเยอะไปหมด แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการสวมใส่แต่ละวาระโอกาส ผู้เข้าประกวดจึงต้องตีโจทย์ในปีนี้ให้แตกและสร้างสรรค์ผลงานออกมาให้ใส่ได้จริง และยังคงมีความสวยงามของผ้าไทย แฝงด้วยเอกลักษณ์ของดีไซเนอร์ เอก ทองประเสริฐ เจ้าของแบรนด์ EkThongprasert ได้แสดงความเห็นว่า ผ้าไทยนั้นมีความสวยงามอย่างมาก และในแต่ละพื้นที่ก็จะมีความแตกต่างกัน ดังนั้นสิ่งที่ต้องใส่ใจคือเรื่องโครงสร้างของชุด เพราะบางครั้งดีไซเนอร์อาจจะมีการออกแบบโครงสร้างชุดแบบตะวันตก ซึ่งผู้เข้าประกวดอาจจะต้องตีความหมายและคำจำกัดความของผ้าไทยร่วมสมัย ไม่ว่าจะเป็นการลงพื้นที่ไปศึกษาผ้าไทยที่สนใจ ศึกษาจุดเชื่อมโยงของชุมชนและความเป็นมาของผ้าชนิดนั้น เพื่อจะได้เข้าใจและหลุดออกจากกรอบเดิมๆ ของการดีไซน์ และได้ชุดที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม นิสิตนักศึกษา นักออกแบบ และประชาชนทั่วไปที่สนใจ สามารถส่งผลงานแบบร่างได้ทาง www.ocac.go.th ตั้งแต่วันนี้-6 พฤษภาคม 2565 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0-2209-3753. บรรยายใต้ภาพ โกวิท ผกามาศ ผอ.สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย และผู้แทนทั้ง 6 สถาบันการศึกษาเหล่าคณะกรรมการเชิญชวนดีไซเนอร์เข้าร่วมประกวด ผู้ชายก็ใส่ผ้าไทยได้เท่ๆ ผลงานการดีไซน์ผ้าไทยจากผู้เข้าประกวดในปีที่แล้ว ดีไซน์ร่วมสมัย ใส่ไปเที่ยวได้ ผู้หญิงยิ่งใส่ผ้าไทย ยิ่งดูมีสไตล์ |
URI: | http://dspace.rmutk.ac.th/handle/123456789/4589 |
Appears in Collections: | ข่าวมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
ประกวดผ้าไทยใส่สบาย.pdf | 1.64 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.