Please use this identifier to cite or link to this item:
https://dspace.rmutk.ac.th/jspui/handle/123456789/3871
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.author | `ไทยรัฐ | - |
dc.contributor.author | ปอมปอมเกิร์ล, ผู้รายงาน | |
dc.date.accessioned | 2020-04-26T06:30:39Z | - |
dc.date.available | 2020-04-26T06:30:39Z | - |
dc.date.issued | 2563-04-26 | - |
dc.identifier.uri | http://dspace.rmutk.ac.th/handle/123456789/3871 | - |
dc.description.abstract | ปอมปอมเกิร์ล/รายงาน โครงการพัฒนาการออกแบบเครื่องแต่งกายผ้าไทยร่วมสมัย โปรเจกต์ดีๆที่ส่งตรงมาจาก สำนัก-งานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) กระ-ทรวงวัฒนธรรม (วธ.) โดยมุ่งส่งเสริมนักออกแบบเครื่องแต่งกายรุ่นใหม่ในการนำผ้าไทยมาเป็นวัตถุดิบตัดเย็บเครื่องแต่งกายให้มีความร่วมสมัย สามารถนำมาสวมใส่ได้จริงในชีวิตประจำวันภายใต้แนวคิด "ผ้าไทย ใส่สบาย" งานนี้ได้เปิดให้น้องๆนิสิตนักศึกษาและประชาชนทั่วไปครีเอตผลงานคอลเลกชันผ้าไทยในรูปแบบต่างๆส่งเข้าประกวด โดยได้รับการถ่ายทอดความรู้เพื่อสร้างแนวคิดและแรงบันดาลใจจากดีไซเนอร์ระดับแนวหน้าอาทิธีระฉันทะสวัสดิ์, เอก ทองประเสริฐ, Oliver Tolentino, VivienneTaa,Pia Castro และ Sandoya นับเป็นการคัดเพชรเม็ดงามมาประดับวงการแฟชั่นไทยทั้งจะได้รับการผลักดันไปสู่เวทีแคต-วอล์กระดับอินเตอร์ด้วย "ปอม ปอม เกิร์ล" ไปชมการพรีเซนต์ผลงานของผู้ผ่านการคัดเลือกเข้ารอบสุดท้าย จำนวน 15 คน ซึ่งมีนักศึกษา 3 คนทะลุเข้ารอบมาด้วยเลยชวนมาจับเข่าเปิดว งเม้าท์เรื่องผลงานของแต่ละคนกันเลย เริ่มด้วย "ฟาอีส"...ชวกร ทองประศรี ปี 4 สาขาวิชาการออกแบบแฟชั่นคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพเปิดบทสนทนาว่า "ได้แรงบันดาลใจการสร้างสรรค์ผลงานจากการอ่าน ส.ค.ส. พระราชทานของในหลวงรัชกาลที่ 9 และมีความสุขทำให้รู้ว่าการเขียน ส.ค.ส. หรือจดหมายเป็นศิลปะแขนงหนึ่งไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการเขียนรูปแบบตัวอักษร หรือรูป-แบบการตกแต่งจดหมายนำมาสู่การออกแบบคอลเลกชันเสื้อผ้าถ่ายทอดเรื่องราวนำเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่นมาผสมผสานให้มีความทันสมัยมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการนำครามจากหมู่บ้านคำข่าจ.สกลนครย้อมเส้นใยฝ้าย ทอผสมกับดิ้นสายรุ้งที่ทำให้ผ้ามีความน่าสนใจและผิวสัมผัสที่ต่างจากเดิมรวมทั้งมีการผสมผสานระหว่างผ้าทอกับผ้ามัดย้อมได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ ได้นำรูปแบบและการตกแต่งส.ค.ส.พระราชทาน มาเป็นดีเทลที่เป็นจุดเชื่อมคอลเลกชันการใช้โทนสีที่ให้ความรู้สึกที่มีความสุขโดยใช้สีครามเป็นหลัก ตอบโจทย์ "ผ้าไทย ใส่สบาย" โดยการสร้างผลงานครั้งนี้ อยากให้ทุกคนได้รู้ว่าผ้าไทยนี่แหละคือความงดงาม ความภาคภูมิใจในเอกลักษณ์ไทยต้องขอขอบะคุณ สศร.ที่จัดโครงการดีๆเพื่อเปิดโอกาสให้นักออกแบบรุ่นใหม่อย่างตัวผมได้พัฒนาฝีมือ พัฒนาผ้าไทย" "โอม"...รักษ์สวัสดิ์ สวัสดิ์รักษ์ ปี 4 คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาวิชาการออกแบบแฟชั่นและสิ่งทอ มหาวิทยาลัยกรุงเทพเล่าว่า "คอลเลกชันนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากต้นไม้ที่เกี่ยวข้องกับพิธีการของไทยหลักๆคือใบตองและใบตาล จึงเลือกจุดเด่นทั้งลวดลายเส้นใบและพื้นผิวต่างๆเช่นใบตองที่ถูกนึ่งจะมีลายเส้นตรงขาดๆหายๆใบตองห่อขนมเผาอย่างขนมกล้วยจะมีรอยไหม้จากการย่างเป็นช่วงๆเป็นลายเส้นตรงขาดๆหายๆ ใบตองที่กำลังแห้งให้สีน้ำตาลสลับเขียว และลวดลายของใบไม้ที่อยู่ในป่ากล้วยมาเลือกใช้เป็นวัสดุในการทอพิมพ์ลายและปั๊มลาย ใบตาล โทนสีที่ใช้มาจากสีเขียว และน้ำตาลของใบตอง สีแดง ชมพู และแสด จากสีของพระอาทิตย์ของช่วงเช้าตรู่และพลบค่ำ ขณะที่เทคนิคหลักของการทำงานคือการผูกโบการสอดด้วยริบบิ้นผ้าการจับจีบและรูดผ้าให้สวยงาม โดย ได้พยายามออกแบบชุดที่ร่วมสมัย เพื่อรับรองว่าผ้าไทยสามารถใส่ได้ในชีวิตประจำวัน และหลากหลายโอกาสซึ่งวันนี้การแข่งขันของตลาดผ้าที่สูงยิ่งทำให้ตลาดผ้าไทยต้องเร่งพัฒนาให้ทันโลกยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการออกแบบสีและลวดลายเทคนิคผ้าให้ร่วมสมัย ซึ่งผู้ประกอบการผ้าไหมของไทยอย่ามองว่าการเปลี่ยนแปลงที่จะพัฒนาเป็นเรื่องยากแต่ต้องคิดว่า การพัฒนาผ้าไทยให้น่าสนใจทำได้เพียงแค่เริ่มจากการย้อมสีที่ร่วมสมัยตามเทรนด์แฟชั่นที่กำลังจะมาในช่วงเวลานั้นๆบวกกับเทคนิคผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ของไทยเพราะไทยเราเป็นประเทศที่อุดมไปด้วยวัฒนธรรมและภูมิปัญญาอยู่แล้ว" ปิดประเด็นที่ "น็อต"...บรรพต คูณผล ปี 3 คณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาการออกแบบเครื่องแต่งกาย ถ่ายทอดแนวคิดการออกแบบว่า "ได้สร้างผลงาน"DUET"มีแรงบันดาลใจจาก "หมอลำ" การแสดงทางภาคอีสานมีทั้งการร้อง เล่นเต้นรำ อย่างสนุกสนาน สะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาและวิถีชีวิตที่สรรค์สร้างความบันเทิงให้เกิดขึ้นจึงนำมาออกแบบคอล-เลกชันโดยใช้ผ้าบาติก อ.พรหมคีรี จ.นคร-ศรีธรรมราช ภูมิปัญญาชาวบ้านภาคใต้เป็นคีย์หลักทำให้เกิดความงามรูปแบบใหม่ที่นำเสนอเรื่องราวศิลป์ของ2ขั้วอารยธรรมมาอยู่ด้วยกันใช้สีที่ฉูดฉาดน่าสนใจลวด-ลายแบบใหม่ที่สำคัญสามารถสวมใส่ได้อย่างสบายในชีวิตประจำวันทั้งนี้ผมมองว่าผ้าไทยทุกชนิดมีเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไปหากปรับปรุงหรือพัฒนาลวดลายหรือสีให้น่าสนใจก็ถือว่าเป็นการพัฒนาสู่สากลได้ โครงการนี้ดีมากๆช่วยให้กลุ่มชุมชนมีรายได้และยังช่วยพัฒนาฝีมือให้กับดีไซเนอร์รุ่นใหม่ให้มีความคิดใหม่ๆทั้งช่วยอนุรักษ์ผ้าไทยไว้ให้กับคนรุ่นหลังได้เห็นรูปแบบใหม่ๆอีกด้วย"รอติดตามชมวีดิทัศน์แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานของนักออกแบบเครื่องแต่งกายที่ผ่านเข้ารอบทั้ง 15 คนแบบเต็มๆ และร่วมลุ้นผู้คว้าชัยชนะได้ทางเฟซบุ๊ก สศร. ได้ภายในเดือนพ.ค.นี้ ถึงเวลาเปลี่ยนแนวคิดผ้าไทยใส่แล้วเชยกันได้แล้วเพราะทุกวันนี้ผ้าไทยได้รับการพัฒนาให้โมเดิร์นได้ไม่แพ้ผ้าของชาติอื่นๆเช่นเดียวกับดีไซเนอร์ไทยที่ส่งผลงานโดดเด่นไปโชว์บนเวทีแฟชั่นระดับโลกได้อย่างน่าภูมิใจ... บรรยายใต้ภาพ โอม นิ๊อต ฟาอีส - (มีภาพ) คลิกดูคลิป >> | en_US |
dc.description.sponsorship | library@ | en_US |
dc.language.iso | other | en_US |
dc.publisher | ไทยรัฐ | en_US |
dc.subject | ฟาอีส ชวกร -- นักศึกษา -- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ สาขาวิชาการออกแบบแฟชั่นคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ | en_US |
dc.subject | ผ้าไทย ใส่สบาย | en_US |
dc.subject | โครงการพัฒนาการออกแบบเครื่องแต่งกายผ้าไทยร่วมสมัย -- ผ้าไทยใส่สบาย | |
dc.title | เจาะไอเดีย 3 ดีไซเนอร์หน้าใหม่ออกแบบเครื่องแต่งกายร่วมสมัย | en_US |
dc.type | Other | en_US |
Appears in Collections: | ข่าวมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
เจาะไอเดีย3ดีไซเนอร์หน้าใหม่ออกแบบเครื่องแต่งกายร่วมสมัย....pdf | 2.18 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.