ส่องเทรนด์ธุรกิจการปรับตัวในยุค 4.0

Abstract

วันเพ็ญ แก้วสกุล กรุงเทพธุรกิจ การมาของเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงของสังคมยุคใหม่นอกจากจะท้าทาย วิธีคิดและการทำงานของธุรกิจต่างๆ แล้ว ในภาคการศึกษาก็เต็มไปด้วยความท้าทายไม่แพ้กัน เด็กรุ่นใหม่ ฟังน้อย อ่านน้อย แต่เสิร์ชมาก เน้นโซเชียลเป็นหลัก อีกทั้งการใส่ใจ และใฝ่เรียนรู้เป็นแบบเฉพาะทางมากขึ้น ใคร่เรียนแบบไหนก็มุ่งหน้าไปทางนั้นมากกว่าการเสียเวลาเรียนให้เยอะโดยที่ไม่มีเป้าหมายของการนำความรู้ไปใช้งาน อีกทั้งยังมี สังคมที่เปลี่ยนแปลง สูงวัยขยายวงกว้าง เทียบกับเด็กเกิดใหม่ ที่ถดถอยลงเรื่อยๆ ทำให้กระบวนการ เรียนรู้ในแบบเดิมๆ เริ่มไม่ทรงพลัง อีกต่อไป การ "ปรับ" และ "เปลี่ยน" ตัวเองให้เร็วและทันต่อการเปลี่ยนแปลง เป็นสิ่งที่มหาวิทยาลัยไทยวันนี้ต้องเร่งทำ "มองจุดแข็ง"ให้เจอแล้วผลักดันอย่างเต็มกำลัง กับ การสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการอยู่รอดให้ได้ในยุคนี้และยุคหน้า ในมุมมองนักบริหารและอดีต มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ ดร.สาธิต พุทธชัยยงค์ บอก "สถาบันการศึกษาต้องการ มามองในสิ่งที่โลกต้องการ(จริงๆ)" จากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในมุมมองของ ดร.สาธิต เริ่มจากต้องเข้าใจ "โลก" ที่เปลี่ยนไป เห็นได้ใน 4 ประเด็นหลัก "ไทยแลนด์ 4.0" แนวทางที่จะหมุนเศรษฐกิจของไทยจากเดิมที่เน้นอุตสาหกรรมซึ่งทำมากแต่ได้น้อย ไปหาเศรษฐกิจที่ลีด ด้วยเทคโนโลยี เพื่อให้ได้ในแนวทาง "ทำน้อยแต่ได้มาก ได้แก่ การสนับสนุนให้เกิดสตาร์ทอัพ การพัฒนาหุ่นยนต์ การบินและโลจิสติกส์ เชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ ดิจิทัล และการแพทย์ครบวงจร "Creative" หลักใหญ่ก็ประกอบด้วย 5F ที่สำคัญ ได้แก่ Fashion, Film, Fighting, Festival และ Food "Gig Economy " เป็นระบบเศรษฐกิจที่ไม่ยึดติดกับงานประจำอีกต่อไป อาทิ การ Outsource การจ้างงานฟรีแลนซ์ เป็นต้น สอดรับกับวิถีชีวิตของเด็กรุ่นใหม่ ที่ต้องการเป็นเจ้าของกิจการ และไม่ต้องการยึดติดกับงานประจำ "จากข้อมูลในสังคมสหรัฐอเมริกา มีมากเป็นหลายสิบล้านคนที่เข้าสู่ Gig Economy แล้ว เฉพาะในกลุ่มเจเนอเรชั่นแซด ที่มีอายุ 21 ปีลงมา คนกลุ่มนี้ไม่ได้ต้องการเรียนในทุกๆ ด้านแต่เลือกที่จะเรียนในสิ่งที่ตัวเองสนใจและต้องการจะรู้เท่านั้น รวมถึง ต้องการเป็นผู้ประกอบการ และชื่นชอบความท้าทาย" "Silver Economy" สังคมสูงวัยกำลังจะเบ่งบานในประเทศไทย หลายคนต้องเริ่มคิดว่าจะทำธุรกิจอะไรกับคนกลุ่มนี้ ได้บ้าง ถ้าให้มองลึกลงไป ในภาพกว้างจะเห็นการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของสังคมสูงวัยนี้ แต่ก็ต้องทำความเข้าใจว่า "สูงวัย" ก็มี 2 แบบด้วยกัน "สูงวัยติดสังคม" คนกลุ่มนี้มองหากิจกรรมต่างๆ ให้กับตัวเอง ทั้งการเรียนคอร์สสั้นๆ ในสิ่งที่สนใจ หรือ กิจกรรม อื่นๆ "สูงวัยติดบ้าน (ติดเตียง)" คนกลุ่มนี้ ไม่ชอบที่จะออกไปพบปะคนภายนอกแต่ก็ต้องมาคิดต่อว่าจะทำอะไรได้บ้าง เพื่อให้คนกลุ่มนี้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ลุกขึ้นมา "ปรับ" เพื่อ "เปลี่ยนตัวเอง ในวันนี้ก็ยังไม่สาย เริ่มที่ ทำสิ่งที่ถนัดเพื่อตอบในสิ่งที่โลกต้องการ 'ไม้เก้ง ไม้ทา' เมื่อโลกกำลังจะเปลี่ยนไป สิ่งที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ (UTK) ต้องเคลื่อนให้ทัน "อากาศยาน-แฟชั่น-อาหารฮาลาล" เป็นสิ่งที่โฟกัสตลอด 1-2 ปีที่ผ่านมา "การทาในสิ่งใหม่เป็นเรื่องยากแต่ก็ได้เริ่มมาแล้วกับการพัฒนาหลักสูตรด้านอากาศยาน" ดร.สาธิต พุทธชัยยงค์อดีตอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ กล่าว ที่ผ่านมาได้จัดตั้งสถาบันการบินแห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพขึ้นโดยได้รับการรับรองเป็น ศูนย์ฝึกอบรมช่างอากาศยานตาม มาตรฐาน EASA PART 147 ก่อนเปิดหลักสูตรฝึกอบรมช่างอากาศยานตามมาตรฐาน EASA PART 66 CAT B 1.1 เมื่อต้นปี 2559 นอกจากการสร้างหลักสูตรด้านอากาศยานเป็น อีกส่วนที่สำคัญคือ การสร้างระบบนิเวศให้เกิดขึ้น ซึ่งก็นำมาสู่ความร่วมมือกับแอร์เอเชียและ โรงเรียนการบินกรุงเทพ โดย บริษัทบางกอกเอวิเอชั่นเซ็นเตอร์ จำกัด (บีเอซี) ผลักดัน "หลักสูตรช่างอากาศยาน" ซึ่งนับเป็นหลักสูตรที่ 2 ของสถาบันการบินแห่งนี้ เป้าหมายพัฒนาหลักสูตรการศึกษา เพื่อพัฒนาและผลิตช่างอากาศยาน หรือ Aircraft Mechanic ซึ่งเป็นหลักสูตรระยะสั้นใช้เวลาในการเรียน 1 ปีและสามารถทำงานกับสายการบินไทยแอร์เอเชีย ได้เมื่อเรียนจบ จากด้านอากาศยาน ก็ยังมีในเรื่อง "อาหารฮาลาล" ที่เตรียมผลักดันให้เกิดขึ้น พร้อมกับกำลังมองหาโอกาสใหม่ที่จะรุกเข้าสู่กลุ่มสูงวัยด้วยเช่นกัน โดยที่มีความเป็นไปได้ก็เช่น การพัฒนาคอร์สอบรมระยะสั้นสำหรับคนวัยนี้ ขณะที่ทางด้าน "แฟชั่น" ที่มหาวิทยาลัยได้ทำในเรื่องเทรนด์สีมาอย่างต่อเนื่อง "ทำในสิ่งที่ถนัดเพื่อตอบสิ่งที่โลกต้องการ" ทุกคนไม่สามารถทำได้ในทุกเรื่องแต่จงเลือกทำในสิ่งที่ตัวเองถนัด บรรยายใต้ภาพ ดร.สาธิต พุทธชัยยงค์