Please use this identifier to cite or link to this item:
https://dspace.rmutk.ac.th/jspui/handle/123456789/3448
Title: | Hidden Dimension: สายพระเนตรอันยาวไกลของในหลวง ร.9 (จบ) |
Authors: | กรุงเทพธุรกิจ |
Keywords: | กรุงเทพธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ หุ่นยนต์ |
Issue Date: | 21-Oct-2560 |
Publisher: | กรุงเทพธุรกิจ |
Abstract: | เรื่อง : บัญชา ธนบุญสมบัติ buncha2509@gmail.com www.facebook.com/buncha2509 นอกเหนือจากเรื่องโลกร้อน เขื่อนปิดปากถ้ำหินปูน (อ่างเก็บน้ำใต้ดิน) และการศึกษาแล้ว ในหลวง ร.9 ยังมี สายพระเนตรยาวไกลในเรื่องอื่นๆ เช่น หุ่นยนต์ พลังงานทางเลือก และการจราจรอีกด้วย เรื่องแรก หุ่นยนต์ ในปี พ.ศ. 2497 ในหลวงเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดงาน ศิลปหัตถกรรมนักเรียนซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย เมื่อทอดพระเนตรเห็นรถขนาดใหญ่บังคับด้วยวิทยุ อันเป็นผลงานของวิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพฯ (ปัจจุบันคือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลกรุงเทพ) จึงมีพระราชกระแสรับสั่งถามอาจารย์สนั่น สุมิตร ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพฯ ในขณะนั้นว่า "ทำหุ่นยนต์ที่เดินได้ได้ไหม?" เมื่อทราบจากอาจารย์สนั่นว่าทำได้ และต้องใช้เงินประมาณ 20,000 บาท ต่อมาจึงพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์แก่วิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพฯ เพื่อสร้างหุ่นยนต์ ทั้งนี้อาจารย์สนั่นได้ปรึกษากับอาจารย์สวัสดิ์ หงษ์พร้อมญาติ หัวหน้าแผนกวิทยุของวิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นผู้สร้างรถยนต์บังคับด้วยวิทยุ โดยสามารถสร้าง หุ่นยนต์สำเร็จตามพระราชประสงค์ คือ มีขนาดเท่าคนจริง แต่งกายแบบคุณหมอสามารถเดิน ยกมือไหว้ พูด ฟัง โต้ตอบ และทำงานได้อีกหลายอย่าง เรียกว่า หุ่นยนต์คุณหมอพระราชทาน ด้วยทรงเห็นว่า คุณหมอเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากการรักษา ผู้ป่วย จึงมีพระราชประสงค์ให้คุณหมอ ได้ทำหน้าที่แทนในระยะไกล เรื่อง พลังงานทางเลือก อย่างแก๊สโซฮอล์ ในหลวงทรงมีพระราชดำรัสให้ศึกษาการผลิตเอทานอลจากอ้อย ตั้งแต่ปี พ.ศ.2528 เนื่องจากทรงคาดว่า ในอนาคตอาจเกิดภาวะน้ำมันขาดแคลนและราคาอ้อยตกต่ำ พระราชดำรัสเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2543 มีข้อความตอนหนึ่งว่า "แก๊สโซฮอล์นี่ทำมา 10 ปีได้แล้ว ก็ใช้ได้ใช้สิ่งของที่ทำในเมืองไทย ทำในประเทศเอง แล้วพอทำได้ดี มีมาก อ้อยที่ปลูกที่ต่างๆ เขาก็บ่นว่ามีมากเกินไป ขายไม่ได้ ราคาตก เราก็ ไปซื้อในราคาที่ดีพอสมควร มาทำแอลกอฮอล์ผู้ที่ปลูกอ้อยได้เงิน ผู้ที่ทำแอลกอฮอล์ก็ได้เงิน" ควรบันทึกไว้ด้วยว่า แอลกอฮอล์ที่ผลิตจากโครงการส่วนพระองค์ส่วนจิตรลดามีความบริสุทธิ์ร้อยละ 95 ซึ่งจำเป็นต้อง นำไปกลั่นต่อที่โรงงานต้นแบบของสถาบัน วิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ให้เป็นแอลกอฮอล์ไร้น้ำ ความเข้มข้นไม่ต่ำกว่าร้อยละ 99.5 จึงสามารถใช้ผสมกับน้ำมันเบนซินให้กลายเป็นแก๊สโซฮอล์ได้ ส่วนไบโอดีเซล ในหลวงทรงได้รับ สิทธิบัตรการใช้น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์เป็นน้ำมัน เชื้อเพลิงสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2544 เรื่องสุดท้าย คือ การจราจร ใครที่ เดินทางในกรุงเทพและปริมณฑล น่าจะ เคยใช้ถนนบางสายและสะพานบางแห่ง ที่เกิดขึ้นเนื่องจากพระราชดำริ เช่น ทางยกระดับคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี และสะพานพระราม 8 เป็นต้น ในที่นี้ จะขอยกตัวอย่างถนนรัชดาภิเษก และถนนกาญจนาภิเษกมาบ้าง ซึ่งเป็นถนนวงแหวน ที่หลายท่านอาจจะได้ใช้เป็นประจำ เรื่องถนนวงแหวนนี้ ในหลวง ร.9 ได้พระราชทานพระราชดำรัสแก่คณะบุคคลที่เข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม พ.ศ. 2536 ความตอนหนึ่งว่า ".โครงการถนนรัชดาภิเษกนี้ ไม่ทราบว่า ท่านทราบหรือเปล่าว่ามาจากอะไร ตอนนั้นจะฉลองรัชดาภิเษก หมายความว่า ฉลอง 25 ปีของรัชกาลปัจจุบัน ก่อนนั้นหน่อยเป็นวันที่ไปกรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ วันที่ 11 พฤศจิกายน ไปฉลองแล้วก็มีการเลี้ยงพระ พอดีจอมพล ประภาส จารุเสถียร ผู้บังคับบัญชาการกองทัพบกและรัฐมนตรีมหาดไทยมาบอกว่า รัชดาภิเษกนี่ทางรัฐบาลขอมีการฉลองหน่อย ถามว่าฉลองอะไร ท่านจอมพล ประภาส ก็บอกว่าจะสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ ที่ไหนไม่ทราบจำไม่ได้เลยบอกว่า ขอเถิดอนุสาวรีย์อย่าเพิ่งสร้าง สร้างถนนดีกว่า เรียกว่าวงแหวน เพราะมันเป็นความฝัน เป็นความฝันมานานแล้ว เกือบ 40 ปี อยากสร้างถนนวงแหวน..." (ที่มา : หนังสือพลังแห่งแผ่นดิน นวมินทรมหาราชา หน้า 348) ดังนั้น เมื่อวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2514 คณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้ดำเนินการสร้างถนนวงแหวนตามพระราชดำริ 3 วง โดยมีสะพานเชื่อมล้อมรอบที่ดิน 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา คือถนนวงแหวนรอบใน รอบกลาง และ รอบนอก ถนนรัชดาภิเษก คือ ถนนวงแหวนรอบกลาง หรือในครั้งนั้นเรียกว่า ถนนวงรอบสายกลาง หรือ ถนนวงรอบพระนครธนบุรี แต่ในปัจจุบันถือว่าเป็น ถนนวงแหวนรอบใน ส่วนถนนกาญจนาภิเษก หรือ ถนนวงแหวนรอบนอก เกิดขึ้นจากการที่ในหลวงพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยว่า ถนนรัชดาภิเษกจะใช้ประโยชน์ได้มากขึ้นถ้ามีเส้นทางเชื่อมถนนจากเมืองทางตะวันออกกับถนนจากทางใต้ ให้ติดต่อกันได้โดยผ่านวงแหวนช่วงด้านใต้ ชื่อ ถนนกาญจนาภิเษก เป็นชื่อพระราชทานเพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาส พระราชพิธีกาญจนาภิเษกที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี เมื่อ พ.ศ. 2539 น่ารู้ด้วยว่า กระทรวงคมนาคมได้กำหนดถนนกาญจนาภิเษกให้เข้าเป็นระบบทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หมายเลข 9 เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 นั่นเอง เรื่องปัญหาการจราจรนี้ ในหลวงทรงห่วงใยและใส่พระราชหฤทัยเสมอ แต่ในขณะเดียวกัน ก็ทรงมีพระราชอารมณ์ขัน ดังเช่น ส.ค.ส. พระราชทาน ปี 2537 ซึ่งมีข้อความว่า ดูดีๆ ปีที่แล้ว ยิ้มบ้าง ไม่ยิ้มบ้าง ปีนี้ต้องยิ้ม "จร" คือ แล่น ต้องใจเย็น "อะจร" คือ ไม่แล่น "จราจร" คือ แล่นบ้าง ไม่แล่นบ้าง More Hidden Dimension สนใจโครงการด้านพลังงานทางเลือกของในหลวง ร.9 อาจเริ่มที่ http:11www.eppo.go.th1 royal1m1700_0020.html บรรยายใต้ภาพ อาจารย์สวัสดิ์ หงษ์พร้อมญาติ หุ่นยนต์คุณหมอพระราชทาน และสารคดีงานของในหลวง ตอน หุ่นยนต์คุณหมอ แผนผังถนนกาญจนาภิเษก และรัชดาภิเษกภาพจากหนังสือ พลังแห่งแผ่นดิน นวมินทรมหาราชา หน้า 354 |
URI: | http://dspace.rmutk.ac.th/handle/123456789/3448 https://edu.iqnewsclip.com/newsservice.aspx |
Appears in Collections: | ข่าวมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
C-171021011072.pdf | 1.1 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.