Please use this identifier to cite or link to this item: https://dspace.rmutk.ac.th/jspui/handle/123456789/203
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.authorจิราภรณ์ กองจันทร์
dc.contributor.authorมหาวิทยาลัย รามคำแหง หลักสูตรปริญญาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิตโครงการ Smart Manager
dc.contributor.authorกิตติพันธ์ คงสวัสดิ์เกียรติ
dc.contributor.authorผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาสาทรธานี มหาวิทยาลัยรังสิต
dc.contributor.authorไกรชิต สุตะเมือง
dc.contributor.authorผู้อำนวยการหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยรังสิต
dc.date.accessioned2016-09-10T07:40:20Z
dc.date.available2016-09-10T07:40:20Z
dc.date.issued2557
dc.identifier.issn19060874
dc.identifier.urihttp://dspace.rmutk.ac.th/handle/123456789/203
dc.identifier.urihttp://journal.rmutk.ac.th/index.php/rmutk/article/view/33
dc.description.abstractการวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยเชิงปริมาณมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ (1) เพื่อ ศึกษาถึงความแตกต่างกันของปัจจัยส่วนบุคคลที่ส่งผลต่อการลาออกของพยาบาลวิชาชีพ กรณีศึกษา โรงพยาบาลเวชธานี(2) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยภายในประกอบด้วย ระบบบริหารงาน ภายใน การติดต่อสื่อสาร ความก้าวหน้าในวิชาชีพ ค่าตอบแทน การฝึกอบรม ระบบการปฏิบัติงาน ที่ ส่งผลต่อการลาออกของพยาบาลวิชาชีพ กรณีศึกษาโรงพยาบาลเวชธานี(3) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ ระหว่างปัจจัยภายนอกประกอบด้วย สภาพแวดล้อมของโรงพยาบาล ข้อกฎหมายช่วงเวลาของการ ท างานที่ส่งผลต่อการลาออกของพยาบาลวิชาชีพ กรณีศึกษาโรงพยาบาลเวชธานีโดยทำการศึกษาจาก กลุ่มตัวอย่างพยาบาลวิชาชีพในโรงพยาบาลเวชธานี เขตกรุงเทพมหานครโดยใช้แบบสอบถามจำนวน 135 ชุด เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม ส่วนการวิเคราะห์ข้อมูลและ ประมวลผลข้อมูลนั้นได้ใช้โปรแกรมทางคอมพิวเตอร์ t-Test, F-Test (ONE-way ANOVA) และการ วิเคราะห์ความถดถอยเชิงพหูคูณ (Multiple Regression Analysis : MRA) ทดสอบสมมติฐาน ณ ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 ผลการวิจัยพบว่า พยาบาลวิชาชีพส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อยู่ในกลุ่มอายุ 31-40 ปี มาก ที่สุด มีสถานภาพโสด ส่วนใหญ่จะจบการศึกษาระดับปริญญาตรี มีรายได้ส่วนบุคคลเฉลี่ยต่อเดือน 10,001 – 20,000 บาทในการศึกษาจะมีนัยสำคัญ และปัจจัยที่มีผลต่อการลาออกของพยาบาลวิชาชีพ กรณีศึกษาโรงพยาบาลเวชธานีในเขตกรุงเทพฯ พบว่าด้านค่าตอบแทน ด้านการปฏิบัติงาน ด้านการ ฝึกอบรม และ สภาพแวดล้อมของโรงพยาบาล มีความสัมพันธ์ต่อการลาออกของพยาบาลวิชาชีพ กรณีศึกษาโรงพยาบาลเวชธานีในเขตกรุงเทพมหานครอย่างมีนัยสำคัญ ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะให้นำข้อมูลการวิจัยเป็นแนวทางเพื่อให้ผู้บริหารทางการพยาบาล วิชาชีพได้ตระหนักถึงปัจจัยต่างๆ ในการท างานอันเป็นที่มาของปัญหาที่ก่อให้เกิดความตั้งใจที่จะลาออก ของพยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลเวชธานีและเป็นแนวทางในการปรับปรุงระบบบริหารเพื่อให้พยาบาล วิชาชีพมีความพึงพอใจในการท างานมากขึ้นและพยายามขจัดปัญหาที่มีสาเหตุจากตนเองเพื่อป้องกัน การลาออกจากงานen_US
dc.description.sponsorshipสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพen_US
dc.publisherสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยและเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพen_US
dc.subjectการลาออกen_US
dc.subjectพยาบาลวิชาชีพen_US
dc.subjectโรงพยาบาลเวชธานีen_US
dc.titleปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการลาออกของพยาบาลวิชาชีพ กรณีศึกษาโรงพยาบาลเวชธานีen_US
dc.title.alternativeInfluencing Factors to the Resignation of Nurse: A Case Study of Vejthani Hospitalen_US
dc.typeArticleen_US
Appears in Collections:Vol 8, No 2 (2014)

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
33-152-1-PB.pdf431.77 kBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.