Please use this identifier to cite or link to this item:
https://dspace.rmutk.ac.th/jspui/handle/123456789/3239
Title: | คอลัมน์ Think data Science: ประโยชน์ของ'เอไอ' กับการพัฒนาการศึกษา |
Authors: | ธัชกรณ์, วชิรมน |
Keywords: | กรุงเทพธุรกิจ การศึกษา |
Issue Date: | 4-Jan-2562 |
Publisher: | กรุงเทพธุรกิจ |
Abstract: | ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา นักพัฒนาเทคโนโลยีต่างเชื่อมั่นว่า การคิดค้นและสร้างสรรค์นวัตกรรมคือหนทางสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในสังคมที่จะนำมาซึ่งความมั่นคงของประเทศ หากเรามองย้อนไปอีกก็จะพบว่าสิ่งสำคัญที่เป็นจุดเริ่มต้นของทุกความสำเร็จมักจะมาจากการได้รับการศึกษาที่ดีและเหมาะสม ที่เอื้อประโยชน์ให้บุคคลสามารถพัฒนาตนเองและสร้างสรรค์ผลงานจนเป็นที่ยอมรับและต่อยอดสู่การขับเคลื่อนสังคมได้ในภาพรวม สำหรับหัวข้อนี้จะกล่าวถึงการนำเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่างปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้านการศึกษาที่จะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต ประโยชน์ของปัญญาประดิษฐ์ ต่อการพัฒนาระบบการศึกษาที่เห็น ได้ชัดเจนคือ การเป็นผู้ช่วยคนสำคัญของครูและอาจารย์ในการลดปริมาณ ภาระงานที่มักจะต้องทำซ้ำๆ และใช้เวลานาน (repetitive tasks) เช่น งานเอกสาร การตรวจการบ้าน การตรวจให้คะแนนข้อสอบทั้งแบบตัวเลือก (Multiple Choice) และการเขียนตอบ โดยนักพัฒนาจะใช้เทคโนโลยี แมชีน เลิร์นนิง (Machine Learning) เพื่อป้อนข้อมูลให้เอไอเรียนรู้และอ้างอิงการให้คะแนนจากรูปแบบ(pattern) ของชุดคำตอบที่ถูกต้อง รวมถึงสามารถตรวจจับการคัดลอก (Plagiarism) และการทุจริตในรูปแบบ ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ บุคลากรทางการศึกษาสามารถลดต้นทุนด้านเวลาและหันมาให้ความสำคัญกับ การให้คำปรึกษาแบบตัวต่อตัวกับ นักเรียนในการทำความเข้าใจบทเรียน และการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่มีความซับซ้อนได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งเอไอยังช่วยสนับสนุนการ พัฒนาหลักสูตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่การปรับรูปแบบการเรียนการสอน และการพัฒนาสื่อการสอนใหม่ๆ ให้สอดคล้องกับความรู้และเงื่อนไขของ นักเรียนได้อย่างเหมาะสมมากยิ่งขึ้น เช่น ระบบคอมพิวเตอร์ที่สามารถวิเคราะห์ ผลสำเร็จและแก้ไขความบกพร่องใน หลักสูตร ช่วยให้นักเรียนเข้าถึงความก้าวหน้าของตนและสิ่งที่ยังต้องปรับปรุงได้อย่างรวดเร็ว นำไปสู่การสร้างสรรค์เครื่องมือ เพื่อการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับนักเรียนแต่ละกลุ่ม อาจจะสามารถไปถึงการปรับบทเรียนให้เข้ากับผู้เรียนแบบรายบุคคล (Personalized) เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดได้ และยังเป็น ทางเลือกที่เหมาะสมในการพัฒนา สื่อการสอนในบางเนื้อหาวิชาที่อาจจะ ต้องอาศัยการเรียนรู้เพิ่มเติมที่ไม่ได้มีการเปิดสอนตามปกติอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น การพัฒนาเอไอยังเป็นทางออกที่ดีสำหรับนักเรียนที่มีความผิด ปกติที่การศึกษาในหลักสูตรปกติ อาจจะไม่เหมาะสมกับเงื่อนไขของ พวกเขา อาทิ เด็กที่ป่วยเป็นโรคดิสเล็กเซีย (Dyslexia) ที่มีสาเหตุจากความผิดปกติของระบบการทำงานที่เซลล์สมอง ซีกซ้าย ส่งผลให้มีภาวะความบกพร่องในการอ่าน มีปัญหาในการอ่านเขียน และการสะกดคำ ไม่สามารถผสมคำได้ ซึ่งจัดเป็นความผิดปกติเฉพาะใน ด้านการเรียนรู้ (Learning Disorder) ที่พบราว 10% ในเด็กอายุระหว่าง 3-4 ขวบ ในต่างประเทศ โดยเอไอจะสามารถช่วยแก้ปัญหา ด้วยการช่วยสร้างรูปแบบการเรียน การสอนที่เน้นการจดจำและตีความ จากภาพเพื่อทดแทนการผสมคำและ เสียงตามหลักไวยากรณ์ปกติ ช่วยให้ เด็กที่ป่วยเป็นโรคนี้สามารถอ่านออกเขียนได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้การใช้เอไอ จะสามารถครอบคลุมการทำงาน ในระบบการศึกษาได้ดี แต่ก็ยังมี ข้อจำกัดในบางหน้าที่ เช่น การปลูกฝัง และการส่งเสริมคุณลักษณะที่พึง ประสงค์ทั้งวินัย คุณธรรม จริยธรรม และการขัดเกลานิสัยที่ต้องมีความละเอียดอ่อนและลึกซึ้ง ที่ยังคง ต้องอาศัยการทำงานตามหลัก วิชาชีพของครู อาจารย์ และบุคลากร ในสถาบันการศึกษาเป็นหลัก อีกทั้งการพัฒนาเอไอเพื่อใช้ ในระบบการศึกษาก็ยังจำเป็นต้อง ได้รับการควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะระบบการประมวลผลจะต้อง ถูกสร้างขึ้นจากมนุษย์ที่เป็นผู้คัดกรอง สอนและป้อนข้อมูลที่ถูกต้องและ เหมาะสมมากที่สุดเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการเรียนรู้และการทำงานของทุกฝ่าย การศึกษาคือพื้นฐานของความสำเร็จและเป็นก้าวแรกที่สำคัญที่สุดของการดำเนินชีวิต การสนับสนุนให้เกิดระบบการศึกษาที่ถูกต้องเหมาะสมจะทำให้ผู้รับการศึกษาสามารถพัฒนา ตัวเองได้อย่างรวดเร็ว นำไปสู่การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของประเทศชาติได้ต่อไปในอนาคต "ผู้ช่วยคนสำคัญของครูและอาจารย์สนับสนุนการพัฒนาหลักสูตร" |
URI: | http://dspace.rmutk.ac.th/handle/123456789/3239 http://edu.iqnewsclip.com/newsservice.aspx |
Appears in Collections: | ข่าวการศึกษา |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
C-190104011114.pdf | 837.02 kB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.