Please use this identifier to cite or link to this item:
https://dspace.rmutk.ac.th/jspui/handle/123456789/3904
Title: | '1ตำบล1มหาวิทยาลัย' อว.ชงมาตรการฟื้นฟู ศก. |
Authors: | กรุงเทพธุรกิจ |
Keywords: | การจ้างงาน -- นักศึกษา โครงการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย |
Issue Date: | 12-Jun-2563 |
Publisher: | กรุงเทพธุรกิจ |
Abstract: | กรุงเทพธุรกิจ "งานที่ได้มอบหมายให้ดำเนินการไปก่อนหน้านี้มีความคืบหน้า ไปมาก แต่ส่วนสำคัญที่สุดคือการเตรียมพร้อม ในโครงการที่จะเสนอมาตรการดูแลและเยียวยาโควิด-19 ทั้งในเรื่องของการจ้างงาน การพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นให้เข้มแข็ง โดยผ่านความร่วมมือระหว่างกระทรวง อว. กับมหาวิทยาลัยที่เกี่ยวข้อง" ข้อคิดเห็นจาก สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมทั้งรับฟังรายงานผลการดำเนินงาน ในเรื่องโครงการสร้างงานของ อว. และยุวชนสร้างชาติ การพัฒนาทักษะเพื่ออนาคต การวิจัย และพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ ที่ให้ การสนับสนุนในช่วงการแพร่ระบาดของ โรคโควิด-19 การขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว การสนับสนุนทุนวิจัยด้านต่างๆ รวมทั้งการปรับ บทบาทมหาวิทยาลัยให้พร้อมรับอนาคต กำชับฟื้นฟูเศรษฐกิจชนบท สมคิด กล่าวว่า โครงการสร้างงานและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ได้เริ่มแล้วและภายในไตรมาส 3 นี้จะดำเนินงานมากขึ้น จึงมีข้อเสนอแนะดังนี้ 1. การจ้างคนลงไปทำงานในพื้นที่ ต้องมี การบริหารจัดการที่ดีและต้องไปสร้าง องค์ความรู้ถึงชุมชน 2.การจ้างงานในชนบทให้อยู่ในลักษณะของการทำเทรนนิ่ง ที่จะต้องได้ประโยชน์ในลักษณะจ้างเพื่อมาเรียน 3.การจ้างงานนักศึกษาว่างงาน จะต้องเป็นในลักษณะบัณฑิตอาสาและต้องมีโปรแกรมลงพื้นที่ เพื่อให้รับรู้ถึงความเหลื่อมล้ำและนำความรู้ตามสาขาวิชาไปพัฒนาในท้องถิ่น เช่น สาขาการบริหารจัดการบัญชีนำไปสอนการบริหารค่าใช้จ่ายต่างๆ ทุกหน่วยงานภายในสังกัด อว.จะต้อง ดำเนินการตามนโยบายที่วางไว้อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับผสานหน่วยงานอื่น เพื่อร่วม ขับเคลื่อนการดำเนินงานโดยเน้นให้ ความสำคัญกับเศรษฐกิจฐานราก เนื่องจากท้องถิ่นยังคงขาดแคลนเครื่องมือที เป็นเทคโนโลยี หากหน่วยงานมีโครงการลงไปจะทำให้สามารถพัฒนาเครื่องมือ ที่ช่วยให้คนในชุมชนประกอบอาชีพได้ ง่ายขึ้น "เดิมเราโฟกัสงานวิจัย แต่จริงๆ นั้นคือการสร้างสิ่งที่สามารถสร้างงานได้ อาทิ ช่วยสร้างเครื่องมือทำกิน อย่างเครื่องมือแปรรูปยางพารา เครื่องมือบริการจัดการน้ำ ดังนั้น เราต้องมีโนว์ฮาวที่จะลงไปถึงพื้นที่จริงๆ ส่วนงบประมาณไม่ใช่ปัญหา แต่กลัว โครงการไม่ตรงกับสิ่งที่เราต้องการ มากกว่า จึงจะทำให้ท้องถิ่นเข้มแข็ง ไม่ว่าจะเป็น เกษตร ชลประทาน หรือเรื่องของไฟฟ้าก็ตาม" โปรเจค'1ตำบล1มหาวิทยาลัย' ด้าน สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาฯ ได้โพสต์ผ่าน เฟซบุ๊คว่า ขณะนี้ กระทรวง อว.กำลังจัดเตรียม โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคม รายตำบลแบบบูรณาการ หรือ โครงการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย เพื่อเสนอขอใช้งบประมาณ จากพ.ร.ก เงินกู้ฯ (การรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินและความมั่นคง ทางเศรษฐกิจของประเทศ พ.ศ. 2563 วงเงินไม่เกิน 4 แสนล้านบาท) โดยดำเนินงานครอบคลุมพื้นที่ 3,000 ตำบลทั่วประเทศ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจในระดับชุมชนหลัง การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระยะเวลา 1 ปี โครงการฯ จะใช้มหาวิทยาลัยของรัฐกว่า 80 แห่งที่กระจายอยู่ตามภูมิภาคต่างๆ ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานบูรณาการโครงการในระดับตำบล และที่สำคัญ มหาวิทยาลัยจะเป็นหน่วยจ้างงานในตำบล โดยจ้างงานประชาชนทั่วไป บัณฑิตจบใหม่และนักศึกษา ไม่น้อยกว่า 20 คนในแต่ละตำบล รวมไม่น้อย กว่า 60,000 คนจาก 3,000 ตำบล อีกทั้งทำหน้าที่ประสานงานและทำงานร่วมกับจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดทำ ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ของชุมชนรายตำบล เพื่อให้เป็นข้อมูลในการวิเคราะห์และตัดสินใจ ในการแก้ไขปัญหาความยากจนแบบมีเป้าหมาย ชัดเจน เป้าหมายโครงการฯ มุ่งหวังให้เกิด การพัฒนาทักษะในการเสริมสร้างอาชีพใหม่ ในชุมชน รวมทั้งให้เกิดการจัดทำข้อมูล ขนาดใหญ่ของชุมชน และให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยเน้นด้าน BCG Economy ผ่านโครงการด้านการเกษตรอัจฉริยะ พัฒนายกระดับ พืชสมุนไพร พลังงานชุมชน การท่องเที่ยว ชุมชน การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ การยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชน (โอท็อป) รวมถึงการส่งเสริมและสนับสนุนวิสาหกิจชุมชนและเอสเอ็มอีในพื้นที่ โครงการต่างๆ เหล่านี้ จะได้รับ การบูรณาการอย่างเป็นระบบตามศักยภาพของตำบล และเพิ่มประสิทธิภาพให้ตำบลด้วยทักษะความรู้และนวัตกรรม เพื่อให้สามารถพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน และแก้ปัญหา ความยากจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น โครงการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย จึงเกิดขึ้นเพื่อให้เกิดการบูรณาการโครงการในพื้นที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามความต้องการของพื้นที่อย่างแท้จริง โครงการ"1ตำบล1มหาวิทยาลัย"จะครอบคลุม 3,000 ตำบล ช่วยพัฒนาท้องถิ่นแบบยั่งยืน แก้ไขความยากจนแบบตรงจุด สุวิทย์ เมษินทรีย์ บรรยายใต้ภาพ ตัวอย่างทีมนักศึกษา"ยุวชนอาสา จ.กาฬสินธุ์"ในโครงการยุวชนสร้างชาติ |
URI: | http://dspace.rmutk.ac.th/handle/123456789/3904 |
Appears in Collections: | ข่าวการศึกษา |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย.pdf | 1.43 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.