Please use this identifier to cite or link to this item: https://dspace.rmutk.ac.th/jspui/handle/123456789/3353
Title: คอลัมน์ บทเรียนจากความจริงกับ ดร.จีระ: มหาวิทยาลัยไทยในเวทีนานาชาติ
Authors: จีระ หงส์ลดารมภ์
Keywords: ข่าว -- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ
ดร.ศักดิ์ทิพย์ ไกรฤกษ์ -- นายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ
Issue Date: 10-Aug-2562
Publisher: แนวหน้า
Abstract: จีระ หงส์ลดารมภ์ dr.chira@hotmail.com ผมได้เดินทางร่วมกับท่านนายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลกรุงเทพ ดร.ศักดิ์ทิพย์ ไกรฤกษ์ ไปอินโดนีเซีย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รายการแรกเป็นการประชุมสัมมนานานาชาติ จัดโดย Dr.Soetomo University ภูมิใจมากที่นายกสภาฯ ซึ่งอดีต เป็นทูตทั้งกัมพูชา ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ ได้รับเชิญเป็น Keynote คนแรกให้ผู้เชี่ยวชาญหลายประเทศ และผู้ฟังอีกกว่า 100 คน หัวข้อของสัมมนาใหญ่ชื่อ Asean Conference on Humanities Industries, and Technology for Society โดยเน้นเรื่อง สังคมโลกในปัจจุบันต้องมีประชาธิปไตย ที่มีธรรมาภิบาลและมีกฎหมายที่เป็นธรรม ชี้ให้เห็นถึงระบบการเมืองที่เห็น ธรรมาภิบาลและการมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นสิ่งที่มีประโยชน์มาก เพราะปัจจุบันประเทศไทยกำลังเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยแบบค่อยเป็นค่อยไป ในขณะที่ในประเทศอินโดนีเซีย การเลือกตั้งของ โจโค วิโดโด (Jokowi) ครั้งที่ 2 ก็มีประชาธิปไตยเป็นหลัก ทำให้เห็นว่าทั้งสองประเทศเดิน ไปสู่ประชาธิปไตยแบบมีคนเป็นศูนย์กลาง สำหรับตัวผม ได้รับโจทย์ให้พูดเรื่อง การปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 และผลกระทบต่อสังคม ซึ่งผมได้กล่าวว่าทุกๆ ประเทศคงจะต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกดิจิทัล เทคโนโลยี, AI, Internet of things ประเด็นใหญ่ที่สุดคือ - โอกาสและผลประโยชน์ที่ได้รับ- Cost หรือ ผลกระทบทางลบโดยเฉพาะคนที่ยากจน ยิ่งจนก็จะสร้างปัญหา ต้องหาทางเข้าไปทั้งไทยและอินโดฯ ผมขอยกตัวอย่างทฤษฎี HR Architecture ให้เห็น ประโยชน์ ต่อสังคมมีเรื่อง :Health สุขภาพ หรือโภชนาการ โดยเฉพาะระบบดิจิทัล ทำให้คนจนเข้าถึงโภชนาการและสุขภาพได้ดีขึ้น แต่จุดอ่อนคือ ในบางพื้นที่ดิจิทัลไปไม่ถึง ทำให้ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนมีมากขึ้นในที่ประชุม ในที่ประชุมผมไม่มีเวลาพูด จึงขอเน้นในบทความ ผมได้มีโอกาสพัฒนาท่องเที่ยว ชุมชนทั้งประเทศ และเมื่อเร็วๆ นี้ 5 จังหวัดภาคใต้ ประกอบด้วย สงขลา สตูล นราธิวาส ยะลา และปัตตานี ซึ่งถ้าพัฒนาเรื่องดิจิทัลให้ท่องเที่ยวชุมชนจะมีคุณค่ามาก แต่ก็ยังไม่ได้ทำให้เห็นเป็นรูปธรรม เนื่องจากเวลาน้อยในการนำเสนอ ผมได้เสริมว่า เมื่อ 10 ปีที่แล้ว คนอินเดียมาคุยกับผมว่า อสม. (อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน) เมืองไทยมีกว่า 1 ล้านคน น่าจะมีระบบดิจิทัลที่ช่วยคนยากจนได้ ไทยมีการช่วยเหลือ คนยากจนทางด้านสุขภาพแบบง่ายๆ เก็บข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับสุขภาพและที่สำคัญที่สุดคือ เรื่องโภชนาการทั้งระบบ ดิจิทัลจะช่วยได้ ภาคอีสานกับการขาดสารไอโอดีน ไม่เพียงพอ ต่อสมองหรือ IQ ของเด็กไทย ผมคิดว่าเรื่อง 4.0 น่าจะช่วยเรื่องการศึกษาได้มากเพราะการศึกษายุคใหม่ จะต้องใช้ดิจิทัลอย่างมากโดยเฉพาะในระดับชุมชน ถ้าในอาเซียนหรือในประเทศไทยยังพึ่งราชการโดยส่วนกลางเป็นคนกำหนดนโยบายต่างๆ และทำได้ต่อเนื่อง ประโยชน์เหล่านี้ก็ไม่เกิดขึ้น โดยสรุปคือ มีทั้งโอกาสและมีทั้งปัจจัยเสี่ยง โดยเฉพาะความเหลื่อมล้ำต้องไม่เพิ่มขึ้น การจะเข้าไปช่วยแก้ปัญหาสังคม ทั้งเรื่องสุขภาพหรือเรื่องการศึกษา คือการกระจาย อำนาจไปท้องถิ่น อย่าให้ทุกอย่างอยู่ในมือราชการอย่างเดียว และให้ภาคประชาสังคมช่วยอย่างจริงจัง ผมอยากเห็น นักวิชาการ พวกประชาสังคม หรือ NGOs ได้มีโอกาสไปช่วยงานของรัฐด้วย เพราะพึ่งพาข้าราชการไม่พอ เพราะเขาได้ C7 และไป C8 ไม่ต่อเนื่อง แต่ภาคประชาสังคมต้องอยู่ต่อ นอกจากการประชุมวิชาการ ผมกับท่านนายกสภาฯ ได้เดินทางไปที่ University of Islam Malang เมืองมาลัง พบกับอธิการบดีของมหาวิทยาลัยนี้คือ Prof. Dr. H. Maskuri, M.Si ได้แลกเปลี่ยนความเห็นและพูดคุยความร่วมมือต่อไป มีการเซ็นสัญญา MOU ต่อกัน รวมทั้งการที่นักศึกษา ของมหาวิทยาลัยนี้จะเดินทางมาที่ไทยเพื่อร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน จากนั้นได้เดินทางต่อไปยังเมือง Batu ซึ่งมีนายกเทศมนตรีผู้หญิง Mrs. Dewanti Rumpoko มาดูแลต้อนรับ และให้ข้อคิดในการร่วมมือระหว่างไทย และอินโดนีเซียในเรื่อง Halal Tourism ซึ่งเป็นความรู้ที่มีคุณค่ามาก ชาวมุสลิมในปี ค.ศ.2014 (เท่าที่มีตัวเลข) เดินทางทั้งโลกใช้เงินมูลค่า 142 billions U.S. dollars น้อยกว่าคนจีนแค่ 18 billion U.S.dollars คือคนจีนเดินทางใช้จ่าย 160 billions U.S. dollars บทบาทของมหาวิทยาลัยไทยในอนาคตจากตัวอย่างของ UTK คือทิศทางที่ควรจะเป็น เพราะ วิทยาลัยนานาชาติของ UTK มีการบริหารจัดการแบบมืออาชีพ เพราะการ ท่องเที่ยว หรือ Halal Tourism จะช่วยให้คนอินโดนีเซีย มาเมืองไทยมากขึ้น รวมทั้งคนมุสลิมทั่วโลก Halal Tourism ไม่ใช่เรื่องแค่อาหาร แต่หมายถึง ห้องน้ำ ห้องละหมาด สปา และการเดินทางต้องรองรับคนมุสลิมอย่างดีเยี่ยมด้วย บรรยายใต้ภาพ แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับ Prof. Dr. H. Maskuri, M.Si อธิการบดี University of Islam Malang เมืองมาลัง แลกเปลี่ยนกับนายกเทศมนตรีหญิงเมืองบาตู Mrs.Dewanti Rumpoko เรื่อง Halal Tourism ภาพหมู่ในงานสัมมนานานาชาติหัวข้อ Asean Conference on Humanities Industries, and Technology for Society จัดโดย Dr.Soetomo University สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ฯพณฯ ดร.ศักดิ์ทิพย์ ไกรฤกษ์ เป็น Keynote Speaker ที่ Dr.Soetomo University เมืองซูราบายา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย
URI: http://dspace.rmutk.ac.th/handle/123456789/3353
Appears in Collections:ข่าวมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
มหาวิทยาลัยไทยในเวทีนานาชาติ.pdf1.09 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.