Please use this identifier to cite or link to this item: https://dspace.rmutk.ac.th/jspui/handle/123456789/3265
Title: หงายการ์ด หยุดกลั่นแกล้ง
Authors: กรุงเทพธุรกิจ
Keywords: กรุงเทพธุรกิจ
การศึกษา
Issue Date: 7-Jan-2562
Publisher: กรุงเทพธุรกิจ
Abstract: แน่นอนว่า ไม่มีใครชอบที่จะถูกรังแก แต่น่าแปลกที่ ทำไมคนจำนวนไม่น้อยกลับชอบที่จะรังแก หรือกลั่นแกล้งคนอื่น โดยจากผลศึกษาล่าสุดของยูนิเซฟชี้ว่า ประมาณครึ่งหนึ่งของเด็กอายุระหว่าง 13-15 ปีทั่วโลกล้วนเจอประสบการณ์ถูกกลั่นแกล้ง รังแก ในรูปแบบต่างๆ จากเพื่อนทั้งในโรงเรียนและนอกโรงเรียน เมื่อเจาะจงลงมาที่เด็กไทย ก็พบว่า มีอยู่ราว 29 เปอร์เซ็นต์ที่ยอมรับว่า ถูกข่มเหงรังแกเป็นประจำทั้งจากเพื่อนนักเรียนไปจนถึงการถูกกลั่นแกล้งโดยครู! สาเหตุหนึ่งของการรังแกอาจเป็นเพราะสังคมไทยมีรากฐานกรอบความคิดการให้ค่าอย่างแข็งตัว อะไรที่แตกต่างออกไปจะถูกมองว่าเป็นเรื่องผิดปกติ ทั้งที่ตามหลักพื้นฐานแล้ว "ทุกคนควรได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม" ไม่ใช่ถูกประเมินตัดสินจากความต่างดังเช่นที่เกิดขึ้น ดังนั้นสิ่งหนึ่งที่สังคมควรให้ความสำคัญ คือ การสร้างความเข้าใจ ให้ทุกคน ควรได้เรียนรู้และยอมรับความแตกต่างหลากหลาย เคารพในเพื่อนมนุษย์ทั้งเรื่องเพศ ลักษณะทางกายภาพ เชื้อชาติ สถานภาพทางเศรษฐกิจ และสังคม จากปัญหาดังกล่าวที่ยังไม่มีทีท่าว่า จะได้รับการแก้ไข ทำให้ จงจิต รื่นภาคทรัพย์ จากโรงเรียนสมุทรปราการ และ ลัดดาวรรณ เหล่าเกียรติกุล จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า นนทบุรี สองคุณครูแกนนำจาก "โครงการก่อการครู" ส่วนหนึ่งของโครงการผู้นำแห่งอนาคต คณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้นำเสนอวิธีการแก้ปัญหานี้ไว้ในเวที "ครูปล่อยแสง" เมื่อปลายปีที่ผ่านมา วิธีการของครูทั้ง 2 คือ การใช้การ์ดเกม "Truth Card" ซึ่งผลิตขึ้นเอง เป็นการ์ดโจทย์ต่างๆ เช่น อธิบายความรู้สึกจากภาพที่เห็น บอกเล่า ความฝัน บอกเล่าสิ่งที่กำลังรอคอย เป็นต้น มาเป็นสถานการณ์ให้แต่ละคนได้ลองพูดคุย เปิดใจรับฟังอย่างลึกซึ้ง ห้อยแขวนการตัดสินและเคารพในความคิดเห็นของผู้อื่น เพื่อทำความรู้จักและเรียนรู้ซึ่งกันและกันในมุมที่หลากหลาย สู่ปลายทาง คือ การตระหนักถึงความเคารพในเพื่อนมนุษย์ เกมดังกล่าวจะเปิดให้ทุกคนได้ใช้เวลาเผชิญกับคำต่างๆ หลายสิบคำ ไม่ว่า จะเป็น หยิก...ดำ...ตุ๊ด...โง่...บ้า ซึ่งหลายคนอาจเคยเผชิญในฐานะเหยื่อ ไม่ว่าจะด้วยเจตนาหรือไม่เจตนาโดยเจ้าของคำพูดก็ตาม จากนั้นเปิดโอกาสให้สะท้อนความคิดและความรู้สึกที่เกิดขึ้นร่วมกัน ก่อนจะเขียนคำที่ส่งผลต่อตัวเองมากที่สุดไม่ว่าในกรณีไหนก็ตามแล้วขยำคำเหล่านั้น ทิ้งไปในกิจกรรม เพื่อก้าวข้ามผ่านความเจ็บปวดเหล่านั้นไปด้วยกัน กิจกรรมดังกล่าวมีเป้าหมายก็เพื่อลดการรังแก (Bullying) โดยสนับสนุนให้เคารพในผู้อื่น และตระหนักถึงผลกระทบจากการกระทำไม่ว่าจะด้วยเจตนาหรือไม่เจตนา นอกจากนั้นการเปล่งเสียงความรู้สึกจากภายในของเราออกมา เพื่อสร้างความตระหนักถึง ผลกระทบที่เกิดกับ "ผู้ถูกกระทำ" ซึ่งเป็นได้ตั้งแต่ส่งผลต่อความรู้สึก ไปจนถึง การใช้ชีวิต และอาจร้ายแรงถึงขั้นไม่สามารถ หวนกลับมาแก้ไขความผิดพลาดได้ แม้การกระทำนั้นอาจเกิดขึ้น จากเพียงการหยอกล้อด้วยความสนุกสนานก็ตาม
URI: http://dspace.rmutk.ac.th/handle/123456789/3265
http://edu.iqnewsclip.com/newsservice.aspx
Appears in Collections:ข่าวการศึกษา

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
C-190107011040.pdf785.43 kBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.