'จีน'เพิ่มความสามารถอวกาศ ส่งยานจอดด้านมืดดวงจันทร์

Abstract

กรุงเทพธุรกิจ จีนส่งยานสำรวจลงจอดบนด้านมืดของดวงจันทร์สำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก ตอกย้ำความฝันมหาอำนาจอวกาศของรัฐบาลปักกิ่ง สำนักงานอวกาศแห่งชาติจีน (ซีเอ็นเอสเอ) แถลงวานนี้ (3 ม.ค.) ว่า ยานสำรวจดวงจันทร์ "ฉางเอ๋อ 4" ตั้งชื่อตามเทพธิดาแห่งดวงจันทร์ตามความเชื่อของชาวจีน ลงจอดบริเวณเขตพื้นที่ห่างไกลบริเวณขั้วใต้หรือ "ด้านมืด" ของดวงจันทร์ ได้สำเร็จเมื่อเวลา 10.26 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่นของกรุงปักกิ่ง (09.26 น. ตามเวลาประเทศไทย) จากนั้นจึงส่งภาพพื้นผิวดวงจันทร์ในบริเวณนี้กลับมายังศูนย์อวกาศซีชาง ในมณฑลเสฉวนตั้งอยู่ทางตอนกลางของจีน ผ่านดาวเทียมสื่อสาร "เชวี่ยเฉียว" ทั้งนี้ ดวงจันทร์โคจรในอัตราเดียวกับโลก คนบนโลกจึงไม่สามารถมองเห็นด้านมืดของดวงจันทร์ได้ ก่อนหน้านี้เคยมียานอวกาศถ่ายภาพด้านนี้มาแล้ว แต่ไม่เคยมีใครได้ลงจอด ผลงานของยานฉางเอ๋อ 4 จึงเป็นครั้งแรกของโลก ช่วยไขปริศนาและเปิดศักราชใหม่ของการสำรวจดวงจันทร์ ที่ผ่านมารัฐบาลปักกิ่งทุ่มเทงบประมาณทำโครงการอวกาศ ด้วยหวังว่าจะส่งสถานีอวกาศที่มีนักบินประจำการให้ได้ภายในปี 2565 และจะส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์ให้ได้ในที่สุด ยานฉางเอ๋อ 4 ออกจากศูนย์อวกาศซีชางทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา เป็นยานสำรวจของจีนลำที่ 2 ที่ไปลงบนดวงจันทร์ หลังจากยานสำรวจ "ยวี่ทู่" (กระต่ายหยก) เมื่อปี 2556 ซีเอ็นเอสเอเผยว่า ภารกิจของฉางเอ๋อ 4 ต้องศึกษาทดลอง 6 รายการจากจีน และ4 รายการจากต่างประเทศ รวมทั้งใช้ประโยชน์จากการที่ด้านมืดของดวงจันทร์ไม่มีสิ่งรบกวนจึงใช้คลื่นวิทยุความถี่ต่ำศึกษาด้านดาราศาสตร์ นอกจากนี้ยานสำรวจจะทดสอบรังสีและแร่ธาตุด้วย นายอู๋ เว่ยเหริน หัวหน้านักออกแบบโครงการสำรวจดวงจันทร์ กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีนว่า นี่คือจุดเริ่มต้นที่ดีมาก เป็นการสร้างจีนให้เป็นมหาอำนาจด้านอวกาศ ในปีนี้รัฐบาลปักกิ่งยังมีแผนส่งยานสำรวจฉางเอ๋อ 5 ขึ้นไปดวงจันทร์เพื่อเก็บตัวอย่างแร่ธาตุนำกลับมาสู่โลก แผนนี้เป็นแค่ส่วนเล็กๆของแผนการใหญ่ รวมถึงการมียานปล่อยยิงที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ภายในปี 2564 สร้างจรวดใหญ่และขนส่งได้มากกว่ายานของนาซาและบริษัทเอกชนอย่างสเปซเอ็กซ์ ตั้งฐานปฏิบัติการบนดวงจันทร์ ตั้งสถานีอวกาศถาวร มีมนุษย์ประจำการ และส่งยานสำรวจดาวอังคาร นายไมเคิล รัสกา ผู้ศึกษาประเด็นความมั่นคงและการป้องกันประเทศ วิทยาลัยการระหว่างประเทศศึกษา "เอส ราชารัตนัม" ในสิงคโปร์ กล่าวว่า กองทัพปลดแอกประชาชนจีนมองอวกาศเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ใหม่ "การเพิ่มกิจกรรมบนอวกาศสำคัญกับทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเตือนภัยแต่เนิ่นๆ สอดแนม ลาดตระเวน ระบุพิกัด ภารกิจทางทหารแทบทุกชนิดล้วนพึ่งพาขีดความสามารถด้านอวกาศ" ด้านนายเฉิน ติงลี่ นักวิชาการด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในกรุงปักกิ่งกล่าวว่า อุตสาหกรรมอวกาศจีนยังต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะเทียบชั้นกับสหรัฐได้ "อาร์มสตรองไปดวงจันทร์ตั้งแต่เมื่อ 50 กว่าปีก่อน แต่ตอนนี้คนจีนยังไม่เคยไปดวงจันทร์เลยสักคน" ปัจจุบันสหรัฐเป็นเพียงชาติเดียวที่ส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์ได้สำเร็จ เมื่อปีที่ผ่านมาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เคยประกาศว่า อยากส่งมนุษย์อวกาศไปดวงจันทร์อีกครั้งเพื่อสร้างฐานภารกิจสำรวจดาวอังคาร นาซาก็เคยประกาศว่าจะส่งมนุษย์ไปดาวอังคารได้เร็วสุดกลางทศวรรษ 30 ก่อนหน้านั้นนาซาเคยส่งยานไปลงจอดบนดาวแดงแล้ว 8 ลำล่าสุดเมื่อเดือน พ.ย. นาซาคาดด้วยว่าจะเริ่มสร้างสถานีอวกาศแห่งใหม่ไปยังวงโคจรดวงจันทร์ได้เร็วที่สุดภายในปี 2565 เพื่อเป็นจุดรับส่งสำหรับภารกิจสู่พื้นที่ห่างไกลของระบบสุริยจักรวาล สำหรับจีนเป็นประเทศที่ 3 ที่ส่งมนุษย์ไปยังอวกาศได้สำเร็จด้วยยานของตนเองเมื่อปี 2546 รองจากสหภาพโซเวียตและสหรัฐ และในปีที่ผ่านมาจีนประกาศว่ากำลังเตรียมการส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์ ส่วนยานกระต่ายหยกที่เคยไปจอดบนดวงจันทร์เมื่อปี 2556 หลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์การทำงานก็เริ่มขัดข้อง อาร์มสตรองไปดวงจันทร์ตั้งแต่เมื่อ 50 กว่าปีก่อนแต่ตอนนี้คนจีนยังไม่เคยไปดวงจันทร์เลยสักคน