วิจัย'ฟิวเจอร์ออฟจ็อบ'สภาพัฒน์ชี้ปัจจัยเสี่ยงแรงงาน

Abstract

กรุงเทพธุรกิจ "สภาพัฒน์" เตรียม เปิดตัวงานวิจัยงานในอนาคต นำเสนอภาพการ เปลี่ยนแปลงตลาดแรงงาน นโยบายมาตรการ ที่สำคัญสำหรับการเตรียมความพร้อมแรงงาน จับมือจุฬาฯ-ยูเอ็นดีพี ทำวิจัยเชิงลึกในประเด็นสังคมผู้สูงอายุ ความเหลื่อมล้ำและความเป็นเมือง ทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) เปิดเผยว่า สภาพัฒน์อยู่ระหว่างจัดทำการศึกษาวิจัยเรื่องงานในอนาคต (Future of jobs) เกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับการจ้างงานและอาชีพที่จะมี การเปลี่ยนแปลงในอนาคตอันใกล้ รวมถึง ทักษะและความจำเป็นที่จะต้องมีการเตรียม ความพร้อมเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง ที่จะเกิดขึ้นกับตลาดแรงงานในอนาต ทั้งนี้ รายงานการศึกษาและวิจัยเรื่องงานในอนาคตจะเป็นหนึ่งในประเด็นที่สถาบันสุริยานุวัตรเพื่อการพัฒนาประเทศ ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยใหม่ของ สภาพัฒน์ที่ได้รับอนุมัติให้มีการจัดตั้งจากรัฐบาล โดยจะ นำเสนอในเรื่องนี้เป็นหนึ่งในงานผลงาน การศึกษาเรื่องสำคัญของสถาบันที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2562 "จากข้อมูลที่ได้รับทราบขณะนี้ ก็คือสาขาอาชีพที่จะได้รับผลกระทบ ในอนาคต คืออาชีพที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) สามารถเข้ามาทำงานทดแทนได้ เช่น นักสื่อสารมวลชน พนักงานเคาท์เตอร์ธนาคาร พนักงานบัญชี" นอกจากนี้ ประเทศไทยยังคงต้องมีการ ปรับและพัฒนาในเรื่องของการศึกษาและ การฝึกอบรมเพื่อการสร้างทักษะอาชีพ เช่น ในนโยบายที่เราจะไปตามการพัฒนาเทคโนโลยี 4.0 การเพิ่มแรงงานทักษะยังเตรียมตัวได้ ไม่เพียงพอ ขณะนี้เราพยายามที่จะปรับระบบ การเรียนการสอน โดยดึงเอาระบบการศึกษา แบบโคเซ็น (KOSEN) ของประเทศญี่ปุ่นที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอาชีวะ และวิศวกรแบบที่เน้นภาคปฏิบัติแนวทาง การทำงานแบบช่างมากกว่าการคิดคำนวณต่างๆ ซึ่งประเทศไทยก็ต้องมีการพัฒนาไปส่วนนี้ควบคู่ไปกับการเปลี่ยนทัศนคติ และค่านิยมในการส่งบุตรหลานไป เล่าเรียนในสาขาอาชีวะที่มีความต้องการ มากขึ้น ส่วนการศึกษาของเยาวชนก็ต้องวางแผนการเรียนในสาขาที่ตรงกับความต้องการของตลาด เช่น โดยเน้นการศึกษาแบบสะเต็มศึกษา (STEM) ที่เน้นแนวทางการจัดการศึกษาที่บูรณาการวิทยาศาสตร์ วิศวกรรม เทคโนโลยี และคณิตศาสตร์ การนำความรู้ไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตจริง รวมทั้งการพัฒนากระบวนการหรือผลผลิตใหม่ ที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิต และการทำงาน การคิดคำนวณ และภาษา ต่างประเทศ ให้มากขึ้นเพื่อจะไปในการพัฒนา ความรู้สำหรับงานในอนาคตมากกว่ามุ่งเรียนเพื่อปริญญาแต่เพียงอย่างเดียว "การศึกษาเป็นหัวใจสำคัญที่ต้องปรับเปลี่ยนไปสำหรับการสร้างทักษะในอนาคตมากขึ้น ส่วนวิศวกรที่เรายังขาดแคลนก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนให้เป็น แบบเน้นการปฏิบัติมากขึ้นเพื่อให้ได้ตรงกับ ความต้องการของตลาดในอนาคต" สำหรับผลการศึกษาวิจัยเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาประเทศในอนาคต ของสถาบันสุริยานุวัตรฯ นอกจากเรื่อง Future of Jobs ยังมีเรื่องสำคัญๆ เช่น เรื่องสังคมผู้สูงอายุ เรื่องการเป็นเมือง (Urban Society) เรื่องการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ โดยการ ศึกษาวิจัยในเรื่องต่างๆ สภาพัฒน์ได้รับ ความร่วมมือจากหน่วยงานที่เป็นเครือข่าย ได้แก่ สถาบันศึกษาเช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่มีการตั้งหน่วยงานใหม่เป็น school of integrated innovation มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี รวมทั้งหน่วยงานระหว่างประเทศ ได้แก่ สำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ซึ่งมีหน่วยงานวิจัยระดับภูมิภาค (Regional Innovation Center)ที่จะ มาช่วยศึกษาวิจัยในประเด็นสำคัญๆ ที่ สภาพัฒน์เลือกขึ้นมาเป็นประเด็นที่ต้องโจทย์นโยบายสำหรับอนาคต ส่วนการเพิ่มจำนวนข้าราชการ 80 คนที่ สภาพัฒน์ได้ขอกำลังคนเพิ่มจากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.)เพื่อรองรับการปรับโครงสร้างสภาพัฒน์ตามที่ คณะรัฐมนตรี (ครม.)ได้อนุมัติไปแล้ว สภาพัฒน์ได้หารือกับ ก.พ.แล้วว่าต้องรอขั้นตอนทางกฎหมายให้มีการประกาศใน ราชกิจจานุเบกษาก่อนจึงจะสามารถประกาศรับสมัครเจ้าหน้าที่เพิ่มได้ซึ่งคาดว่าจะ ดำเนินการได้แล้วเสร็จภายในปี 2562 "ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับอาชีพต่างๆขึ้นอยู่กับความเร็วในการพัฒนา AI ในอนาคต