Please use this identifier to cite or link to this item:
https://dspace.rmutk.ac.th/jspui/handle/123456789/3060
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.author | กตตณ์, ตติปาณิเทพ | - |
dc.date.accessioned | 2019-08-02T10:19:47Z | - |
dc.date.available | 2019-08-02T10:19:47Z | - |
dc.date.issued | 2562-01-01 | - |
dc.identifier.uri | http://dspace.rmutk.ac.th/handle/123456789/3060 | - |
dc.identifier.uri | https://edu.iqnewsclip.com/newsservice.aspx | |
dc.description.abstract | สวัสดีปีใหม่ 2562 จากความตื่นตัวเกี่ยวกับเรื่อง ปัญหาสิ่งแวดล้อม อันนำไปสู่ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตในแง่มุมต่างๆ เชื่อว่า ปีนี้จะเป็นอีกปีหนึ่งที่กระแสการ "คิดก่อนใช้" หรือกระทั่งการอ้างอิงถึงผลกระทบเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงของโลกเพื่อนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงของเราจะยังคงมี ให้เห็นเป็นระยะๆ ประเด็นหนึ่งในมิติของความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นก็คือ พลาสติก ปฏิเสธไม่ได้ว่า พลาสติกยังคง เป็นทั้งโอกาส และความท้าทายอย่างที่ อ.อาร์ม-ดร.ณัฐพงศ์ นิธิอุทัย จากสาขาเทคโนโลยียางและพอลิเมอร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานีเคยพูดเอาไว้ "ความสำเร็จต่างหากที่ทำให้เรา เป็นผู้ร้าย" ด้วยต้นทุนที่ถูกมากนับตั้งแต่มีการคิดค้นผลิตภัณฑ์อย่างพลาสติกขึ้นมาในโลก วัสดุทดแทนเหล่านี้ก็ถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย ถึงขนาดเคยมีข้อมูลจากโครงการด้านสิ่งแวดล้อมของสหประชาชาติระบุว่า ในแต่ละปีนั้น ประชากรโลกจะมีการใช้ถุงพลาสติกรวมกันอยู่ปีละไม่น้อยกว่า 5 แสนล้านใบ อีกทั้งครึ่งหนึ่งของพลาสติกที่มีการใช้กันอยู่ในปัจจุบันนั้นเป็นแบบ "ใช้แล้วทิ้ง" ไม่ว่าจะเป็น ช้อน ส้อม หรือแก้วพลาสติก นั่นยังเป็นส่วนหนึ่งของการทำให้มีปริมาณขยะพลาสติกกว่า 13 ล้านตัน ไหลลงสู่ทะเลอีกด้วย อีกด้านนอกจากผลกระทบของปัญหาก็นำมาซึ่งความตื่นตัว ภาวะความล้นเกิน และผลกระทบของสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากพฤติกรรมการบริโภคของคนเราได้สะท้อนข้อมูลความเปลี่ยนแปลงบางอย่างออกมาเป็นโจทย์ให้กับส่วนการผลิตของอุตสาหกรรมหลายๆ อุตสาหกรรมเช่นกัน อย่างเมื่อไม่นานนี้ บริษัท ออร์บ มีเดีย (Orb Media Inc.) เปิดเผยรายงาน และผลการวิเคราะห์ข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่า ผู้บริโภคกำลังเป็นกังวลอย่างมากเกี่ยวกับผลกระทบของพลาสติกที่มีต่อโลก ขณะที่ประชาชน ในหลายประเทศยังคงสับสนเกี่ยวกับความรับผิดชอบและทางเลือกต่างๆ รวมถึงบทบาทของรัฐบาลและอุตสาหกรรมในการลดมลภาวะจากพลาสติก โดยสาระสำคัญของรายงานมีประเด็นหลักๆ ที่น่าขบคิดต่อหลายเรื่อง วัสดุใช้แทนถุงพลาสติกสร้างคาร์บอนฟุตพริ้นท์มากกว่าเดิม ถุงพลาสติกแบบย่อยสลายได้ แท้จริงแล้วไม่สามารถย่อยสลายได้ในหลุมฝังกลบหรือตามธรรมชาติ และจะต้องแยกออกและนำไปเผาในโรงงานอุตสาหกรรม ไบโอพลาสติกส่วนใหญ่ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมแบบเดียวกับพลาสติก และยังปล่อยคาร์บอนมาก กว่าด้วย แน่นอนว่า ไบโอพลาสติก หรือพลาสติกชีวภาพได้ถูกผลิตขึ้นมา โดยใช้วัสดุจากธรรมชาติหรือชีวมวล หลากหลายประเภท ตั้งแต่น้ำตาลจากอ้อยหรือข้าวโพด แป้งจากมันสำปะหลัง โปรตีนจากถั่ว โปรตีนเคซีนจากนม เซลลูโลสจากพืช เป็นต้น และย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ถึงจะเน้นใช้วัตถุดิบธรรมชาติ ทำให้ลดใช้พลังงาน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขั้นตอนการผลิต แต่ไม่แก้ปัญหาเรื่องการย่อยสลาย ซึ่งพลาสติกย่อยสลายได้ทางชีวภาพทุกชนิดไม่ได้ย่อยสลายอย่างรวดเร็วเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมทั่วไป แต่ต้องอาศัย ปัจจัยแวดล้อมที่เหมาะสมเพื่อไปถึง การย่อยสลายอย่างสมบูรณ์ บางชนิดต้องใช้อุณหภูมิประมาณ 55-60 องศาเซลเซียสเท่านั้น บางชนิดสามารถใช้อุณหภูมิต่ำกว่า บางชนิด ย่อยสลายได้ด้วยจุลินทรีย์ในธรรมชาติ หากปัจจัยแวดล้อมไม่เหมาะสม ระยะเวลาการย่อยสลายก็จะยิ่งยืดยาวออกไป ขณะเดียวกันในมุมของผู้บริโภคนั้นถึงจะมีเจตนาที่ดีเป็นจุดเริ่มต้นแต่ก็ต้องยอมรับว่า ความรู้เกี่ยวกับการจัดการพลาสติกเจเนอเรชั่นที่ 2 นั้นยังมีน้อยอยู่ เรื่องนี้รวมถึงการแยกแยะประเภทของพลาสติกที่ทางผู้ผลิตนั้นต้องมีการสกรีนโลโก้ หรือแปะฉลากเกี่ยวกับวิธีจัดการด้วย ซึ่งตรงจุดนี้ถือว่าเป็นอีกส่วนหนึ่งของความท้าทายที่รออยู่ ยิ่งไปกว่านั้น จากการศึกษาพบว่า การผลิตและเคลื่อนย้ายขวดแก้วใช้พลังงานมากกว่าถุงพลาสติกเกือบ 5 เท่า ในทางกลับกัน การผลิตถุงกระดาษที่เคยถูกมองว่าเป็นตัวเลือกที่เป็นมิตรต่อ สิ่งแวดล้อมมากกว่า แต่กลับสร้างมลพิษทางอากาศมากกว่าการผลิตถุงพลาสติกเสียอีก การเดินหน้าแก้ปัญหาไม่ว่าจะ เป็นนวัตกรรมวัสดุ หรือความรู้ใน การใช้ก็ยังคงเป็นเรื่องที่เราต้องเรียนรู้กันต่อไป ไมโครพลาสติกมีอยู่ทุกที่ "ไม่มีที่ไหนบนโลกอีกแล้วที่ขยะพลาสติกไปไม่ถึง" คำพูดนี้ดูจะไม่ได้เป็นเรื่องเกินความจริงไปแม้แต่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพลาสติกในมหาสมุทรราว 80 เปอร์เซ็นต์ มาจากประเทศในแถบเอเชีย 5 ประเทศที่เป็นตัวการปล่อยทิ้งมากที่สุดประกอบไปด้วย จีน อินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และไทยจากรายงานของ Ocean Conservancy ผลกระทบหนึ่งที่เกิดขึ้น และเริ่มใกล้ตัวเรามากขึ้นเรื่อยๆ ก็คือ ความตายของสัตว์น้ำต่างๆ ที่กินพลาสติกเข้าไปเพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นอาหาร นักวิชาการได้มีการคำนวณกันว่า น่าจะมีสิ่งมีชีวิตในทะเลกว่า 700 สายพันธุ์ได้รับผลกระทบจากพลาสติก และสิ่งมีชีวิตอีกนับ 100 ล้านตัวในมหาสมุทรต้องตายจากการกินขยะพลาสติกในท้องทะเล ความจริงเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับกระบวนการย่อยสลายของพลาสติก ก็คือ การแตกตัวของพลาสติกกลายเป็นหน่วยย่อย หรือที่เรารู้จักกันในชื่อของไมโครพลาสติก หรือพลาสติกจิ๋ว ก็กลายเป็นอีกสิ่งที่ไม่ค่อยได้รับความสนใจเท่าไรนัก การตั้งคำถามเกี่ยวกับมลพิษของไมโครพลาสติกในอาหาร อากาศ ดิน และน้ำ และความปลอดภัยของสารเคมีเติมแต่งในบรรจุภัณฑ์อาหารที่เป็นพลาสติกก็ยังเป็นเพียงสมมติฐานถึงความเป็นไปได้ว่าจะเกิดอะไรกับร่างกายของเราได้บ้าง แต่ถึงอย่างนั้น ในระยะ 10 ปี ที่ผ่านมา นักวิจัยทั่วโลกก็เริ่มให้ ความสำคัญกับการศึกษา และทำงานเกี่ยวกับเรื่องนี้มากขึ้นเพราะพบว่า ไมโครพลาสติก "อาจ" มีผลต่อคน จากการศึกษาพบว่า ไมโครพลาสติกเข้าไปอยู่ในแพลงก์ตอนได้ เพราะฉะนั้น มันก็ย่อม เข้าไปอยู่ในปลา และในสัตว์น้ำ อื่นๆ ที่กินแพลงก์ตอนได้ อีกทั้งอาจเข้าไปอยู่ในทุกหนทุกแห่งส่งผลต่อ สิ่งแวดล้อม ต่อระบบนิเวศ และสายใยอาหาร ถึงแม้งานวิจัยตอนนี ยังไม่ถึงขั้นระบุปัญหาของไมโครพลาสติกต่อ สุขภาพมนุษย์ แต่ไม่ใช่แปลว่า "ไม่มี" ใช้คำว่า "ยังไม่ทราบ" น่าจะถูกต้องกว่า สิ่งหนึ่งที่แน่นอนเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คือ ไมโครพลาสติกย่อยด้วยกระบวนการในร่างกายไม่ได้ ดังนั้น การสะสมของพลาสติกที่อาจมีสารเจือปน ย่อมดูไม่น่าใช่เรื่องดีต่อเราสักเท่าไหร่ ยิ่งเมื่อเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงอาหารจากทะเลได้ ในเมื่อ แม้แต่หมู หรือไก่ในระบบอุตสาหกรรมอาหารที่เป็นช่องทางหลักของการบริโภคของมนุษย์ในวันนี้ยังต้องอาศัยปลาป่นมาเป็นต้นทุนผลิตอาหารสัตว์อยู่ การลด ละ เลิก พลาสติกในชีวิตประจำวันเท่าที่ทำได้จึงน่าจะเป็นหนทางการช่วย "ชะลอ" ปัญหาที่อาจจะเกิด หรือผลลัพธ์ที่อาจจะได้ความกระจ่าง ในเร็ววันเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทัศนคติส่งผลต่อพฤติกรรม การรีไซเคิล ประเด็นปลีกย่อย (แต่สำคัญ) เกี่ยวกับงานวิจัยชิ้นนี้แสดงให้เห็นว่า อารมณ์ความรู้สึกของชุมชนสามารถ ส่งผลต่ออัตราการรีไซเคิล โดย การสำรวจน้ำหนักเฉลี่ยของการรีไซเคิลในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในสหรัฐ แสดงให้เห็นว่า หลังจากทีมบาสเกตบอลของมหาวิทยาลัยได้รับชัยชนะ การรีไซเคิลจะสูงกว่าถึงเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับหลังจาก ทีมแพ้หรือเสมอ และจากการเก็บรวบรวมข้อมูลการรีไซเคิลของครัวเรือนในเขตหนึ่งของกรุงลอนดอน พบว่า ในวันฝนตก การรีไซเคิลจะลดลง 1 กิโลกรัมต่อปริมาณน้ำฝนทุก 1 มิลลิเมตร ทั้งหมดนี้ยังคงทำให้เห็นว่า ปีนี้ และปีต่อๆ ไปพลาสติกจะยังคงเป็นหนึ่งประเด็น และสาระสำคัญของ การใช้ชีวิตในวันที่ผลกระทบเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมกำลังก่อตัว และใกล้ตัวเรามากขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีที่ไหน บนโลก อีกแล้ว ที่ขยะพลาสติก ไปไม่ถึง | en_US |
dc.description.sponsorship | library.carit@mail.rmutk.ac.th | en_US |
dc.language.iso | other | en_US |
dc.publisher | กรุงเทพธุรกิจ | en_US |
dc.subject | กรุงเทพธุรกิจ | en_US |
dc.subject | การศึกษา | en_US |
dc.title | 'พลาสติก' รอบตัวเรา | en_US |
dc.type | Other | en_US |
Appears in Collections: | ข่าวการศึกษา |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
B-190101011004.pdf | 224.95 kB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.