Please use this identifier to cite or link to this item:
https://dspace.rmutk.ac.th/jspui/handle/123456789/2696Full metadata record
| DC Field | Value | Language |
|---|---|---|
| dc.contributor.author | เดลินิวส์ | - |
| dc.date.accessioned | 2019-08-02T03:53:26Z | - |
| dc.date.available | 2019-08-02T03:53:26Z | - |
| dc.date.issued | 2562 | - |
| dc.identifier.uri | http://dspace.rmutk.ac.th/handle/123456789/2696 | - |
| dc.description.abstract | พจมาน เชยเดช หมู่เกาะกาลาปาโกส (Galแpagos Islands)เคยเป็นหมู่เกาะโดดเดี่ยวและไม่ได้รับความสนใจ แต่ด้วยความหลากหลายทางธรรมชาติวิทยาองค์การยูเนสโกได้ประกาศให้หมู่เกาะแห่งนี้เป็นแหล่งมรดกโลก ซึ่งสารานุกรมประวัติศาสตร์สากลอเมริกา เล่ม ๓ อักษร E-G ฉบับราชบัณฑิตยสถาน อธิบายถึงหมู่เกาะนี้ไว้ซึ่งพอสรุปความได้ว่า หมู่เกาะกาลาปาโกสเป็นหมู่เกาะภูเขาไฟในมหาสมุทรแปซิฟิก เป็นจังหวัดหนึ่งในประเทศเอกวาดอร์ ที่ตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งตะวันตกของทวีปอเมริกาใต้ประมาณ ๑,๐๐๐ กิโลเมตร มีชื่อทางการว่า หมู่เกาะโกลอน ประกอบด้วยเกาะสำคัญ ๙ เกาะ และเกาะเล็กๆ อีกมากกว่า ๕๐ เกาะ หมู่เกาะนี้ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว จึงเรียกกันว่า "ดินแดนสุดขอบโลก" แม้จะตั้งในอยู่เขตเส้นศูนย์สูตรแต่อากาศค่อนข้างเย็นและแห้งแล้ง เพราะได้รับอิทธิพลจากกระแสน้ำเย็นเปรูที่อยู่ใกล้เคียง บนเกาะของหมู่เกาะกาลาปาโกสมีเต่ายักษ์จำนวนมากจนนักสำรวจชาวสเปนให้ชื่อหมู่เกาะเป็นภาษาสเปนว่า galแpago ซึ่งแปลว่า เต่า หมู่เกาะนี้ได้รับการค้นพบใน ค.ศ.๑๕๓๕ โดยโตมัส เด เบร์ลังกา บิชอปแห่งปานามา ซึ่งรายงานไปยังกษัตริย์สเปน แต่ไม่ได้รับความสนใจเนื่องจากเป็นหมู่เกาะที่อยู่โดดเดี่ยว และไม่มีผู้อยู่อาศัย ปลายคริสต์ศตวรรษที่ ๑๘ กัปตันเจมส์ คอลเนตต์ แห่งราชนาวีอังกฤษได้ก่อตั้งอุตสาหกรรมล่าวาฬและแมวน้ำ จึงทำให้ตลอดคริสต์ศตวรรษที่ ๑๙ เรือล่าวาฬใช้หมู่เกาะแห่งนี้เป็นแหล่งน้ำจืด ใช้เนื้อเต่าเป็นเสบียง และซื้อขายแลกเปลี่ยนขนแมวน้ำ จนกระทั่ง ค.ศ.๑๘๓๒ หมู่เกาะกาลาปาโกสถูกรวมเข้ากับประเทศเอกวาดอร์ หลังจากนั้น ชาลส์ ดาร์วิน นักธรรมชาติวิทยาชาวอังกฤษได้เดินทางเพื่อศึกษาชีวิตสัตว์พบว่าเต่ายักษ์ในแต่ละหมู่เกาะเป็นเต่าต่างชนิดกัน จำนวนครึ่งหนึ่งของนกและต้นไม้ ชนิดปลากว่า ๑ ใน ๓ ของปลาทั้งหมดตามชายฝั่ง และสัตว์เลื้อยคลานเกือบทั้งหมด ล้วนเป็นชนิดที่ไม่พบในส่วนอื่นของโลก ความแตกต่างเหล่านี้ทำให้ดาร์วินกล่าวสรุปไว้ในผลงานของเขา ชื่อ On the Origin of Species by Means of Natural Selection ว่า เพื่อความอยู่รอดสิ่งมีชีวิตทั้งหลายต้องมีวิวัฒนาการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อม ใน ค.ศ. ๑๙๗๘ องค์การยูเนสโกได้ประกาศให้หมู่เกาะทั้งหมดเป็นแหล่งมรดกโลก และ ค.ศ. ๒๐๐๐ รัฐบาลเอกวาดอร์ประกาศห้ามการตั้งถิ่นฐานในทุกเกาะ และควบคุมการท่องเที่ยวและการประมง รวมทั้งห้ามนำต้นไม้นอกเกาะเข้าไปเพื่อรักษาระบบนิเวศ. | en_US |
| dc.language.iso | other | en_US |
| dc.publisher | เดลินิวส์ | en_US |
| dc.subject | เดลินิวส์ | en_US |
| dc.subject | การศึกษา | en_US |
| dc.subject | หมู่เกาะกาลาปาโกส | en_US |
| dc.title | องค์ความรู้ภาษา-วัฒนธรรม: หมู่เกาะกาลาปาโกส | en_US |
| dc.type | Other | en_US |
| Appears in Collections: | ข่าวการศึกษา | |
Files in This Item:
| File | Description | Size | Format | |
|---|---|---|---|---|
| B-190801035009.pdf | 73.22 kB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.